รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ บวงสรวงวันมรณภาพหลวงพ่อทบครบรอบ 49 ปี
วันที่ 14 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่วัดช้างเผือก ตำบลวังชมพู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชนกมากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทบเนื่องในวันคล้ายวันมรณภาพหลวงพ่อทบ ปีที่ 49 เกจิอาจารย์ชื่อดัง โดยมี นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ จำนวนมาก นำเครื่องบวงสรวงมาถวาย และเข้าร่วมพิธีดังกล่าว โดยในพิธีได้รับความเมตตาจากพระเกจิอาจารย์จำนวน 4 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต ได้แก่ หลวงปู่วี ธีรปัญโญ วัดป่าศรัทธาวนาราม อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ พระครูพินิจสีลคุณ หลวงพ่อสนมฉันทสีโล วัดท้ายน้ำ จังหวัดพิจิตร พระครูขันติธรรมโสภณ (พระมหาจำนงค์ ขันติธโร) วัดป่าบ้านหัวโตก อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ พระครูโพธิพัชรธรรม พระอาจารย์เด่น วัดโพธิ์กลาง ตำบลท่าพล อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
หลวงพ่อทบเกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2424 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5
ที่บ้านยางหัวลม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่ออายุได้ 16 ปี
ตรงกับปี พ.ศ. 2440 ได้ทำพิธีบรรพชาเป็นสามเณร
เรียนหนังสือขอมและไสยเวทวิทยาคมจนมีความรู้แตกฉาน พออายุครบ 21 ปี
ท่านได้เข้าทำพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่ วัดเกาะแก้ว ตำบลนายม อำเภอเมือง
จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า ธัมมปัญโญ
หลังจากอุปสมบทแล้วท่านได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดช้างเผือก หลวงพ่อทบเป็นพระนักพัฒนา สร้างเสนะโบสถ์วิหารให้แก่วัดต่างๆ
มากมายในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแต่งตั่งให้เป็น เจ้าคณะอำเภอชนแดน
ก่อนกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัด พระพุทธบาทเขาน้อย อำเภอชนแดน กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดช้างเผือกและได้มรณภาพที่วัดนี้เมื่อวัน ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2519 รวมสิริอายุได้ 95 ปี 74 พรรษา หลังมรณภาพ คณะศิษยานุศิษย์ได้นำศพบรรจุไว้ในโลงแก้วตาม คำสั่งสุดท้ายก่อนมรณภาพที่สั่งไว้ว่า "ห้ามนำ ร่างกายกูไปเผา
ต่อไปในวันข้างหน้า ร่างกายนี้จะ มีคุณประโยชน์ต่อวัด
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น