ราษฏรกลุ่มผู้คัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุ เรียกร้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2518
เพชรบูรณ์-ราษฏรกลุ่มผู้คัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุ จาก 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ รวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้มีการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 14 มีนาคม 2566 ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2518
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. ที่ อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ราษฏรกลุ่มผู้คัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุ จาก 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมารวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับที่ดินอำเภอเขาค้อ ตลอดจนแนวทางการแก้ปัญหาจากภาครัฐ ตามที่ราษฎรได้ร้องขอความเป็นธรรม โดยมีนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชนก มากพันธ์ รองผู้ว่าราชการฯ นายปกรณ์ ตั้งใจตรง ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ และคณะ ร่วมพูดคุยหารือ กับตัวแทนราษฏร 10 คน เพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือตามข้อเรียกร้อง
ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวแทนกลุ่มผู้เรียกร้อง ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมกรณี เรื่องที่จะมีการเสนอเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในเร็วๆ นี้ เพื่อส่งมอบให้กรมธนารักษ์ดำเนินการตามกฎหมายที่ราชพัสดุ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ทำให้ราษฎรที่ที่ทำกินในพื้นที่ ที่อยู่มาก่อนประกาศป่าสงวนแห่งชาติ เสียสิทธิ์ จึงได้เรียกร้องให้ทางราชการแก้ปัญหาหรือเสนอให้หน่วยงานระดับสูงดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม
โดยเรียกร้องขอให้จังหวัดพิจารณาเสนอ ให้มีการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ในส่วนที่จะให้กรมธนารักษ์นำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอำเภอเขาค้อ ที่กรมป่าไม้เพิกถอนแล้ว ไปดำเนินการตามกฎหมายที่ราชพัสดุ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับเรื่องราษฎรไม่ต้องการการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินตามที่ภาครัฐเสนอ เนื่องจากราษฎรมีสิทธิ์ในที่ดินตามใบจอง (น.ส.2) โดยสมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พร้อมเรียกร้องขอให้คณะรัฐมนตรียึดปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2518 ในส่วนที่เห็นชอบให้เปิดป่า 2 ข้างทาง ข้างละ 1 กิโลเมตร เพื่อจัดที่ดินให้กับราษฎร เพื่อเป็นกันชนกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในขณะนั้น โดยคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมา ได้ให้ความเห็นชอบในกรณีที่ดินจัดโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ให้ราษฎรที่เข้าครอบครองที่ดิน
ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ 25 มกราคม 2518 ภาครัฐได้มีการออกใบจองให้แก่ราษฏรไปแล้วจำนวน 585 แปลง ส่วนที่ดินที่เหลือที่ประชุมคณะกรรมการจัดที่ดินในขณะนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการออกไปจองให้ครอบคลุมพื้นที่โดยเสมอภาคกัน ซึ่งราษฎรที่ยังไม่ได้รับใบจอง เกิดจากความขัดข้องของหน่วยงานราชการ ส่วนที่ดินที่ทางการทหารจัดให้ รอส. เพื่อประโยชน์ของการดูแลพื้นที่ เป็นพื้นที่รวมอยู่ในกลุ่มของการแก้ไขปัญหาที่ดินด้วย (ที่ดินแปลงใหญ่)
ราษฏรจึงได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 14 มีนาคม 2566 ให้ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยขอส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีมีมติแก้ไข ให้นำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เพิกถอน แล้วมอบให้จังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2518 เพื่อแจกโฉนดที่ดินให้กับราษฎรผู้มีสิทธิ์ตามใบจอง (น.ส.2) แล้วแจ้งให้กรมที่ดินดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรที่ครอบครอง และทำประโยชน์ที่ดิน 2 ข้างทาง ตามมาตรา 58 และ 58 ทวิ วรรค 2 (3 )
ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงต้องยึดถือมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2518 ในส่วนที่เปิดป่า (ไม้ถาวร ป่าหมายเลข 22) เพื่อจัดออกเอกสารที่ดินให้กับราษฎร ส่วนกรณีข้อขัดข้องเรื่องป่าไม้ถาวร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2509 รวมพื้นที่ที่ทหารจัดให้ รอส. ต้องครอบคลุมพื้นที่ ทั้ง 4 ตำบล รวม 35 หมู่บ้านด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น