Facebook

จังหวัดเพชรบูรณ์​ ขอเชิญเที่ยวงานอุ้มพระดำน้ำ​ประจำปี​ 2567 ระหว่าง​ วันที่​ 27 ก.ย.​ - 6 ต.ค.​67

รมว.เกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะตรวจเยี่ยม โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นและเขื่อนลำกงพร้อมมอบหนังสือ สปก 4-01

 

        เพชรบูรณ์-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือสปก 4-01 ให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน

         วันที่ 6 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์  โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายกฤษณ์  คงเมือง  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

          โอกาสเดียวกันนี้ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายรัฐบาลให้พี่น้องเกษตรกร และหัวหน้าส่วนราชการได้รับทราบ พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือสปก 4-01 ให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่อำเภอหล่มสักตำบลบ้านติ้ว และตำบลปากช่อง จำนวน 240 ราย รวม 243 แปลง ในเนื้อที่จำนวน 1,756 ไร่  มอบปัจจัยการผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์พืชให้กับเกษตรกรจำนวน 1,000 ราย และมอบสารเร่งจุลินทรีย์ พด.จำนวน 1,000 ราย


         จากนั้นช่วงบ่าย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะได้เดินทาง ไปยังอ่างเก็บน้ำคลองลำกงตำบลวังท่าดี อำเภอหนองไผ่  จังหวัดเพชรบูรณ์  เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกง และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกร โดยมีนายสมพงษ์  มหาวังษ์  นายอำเภอหนองไผ่  นางวันเพ็ญ  พร้อมพัฒน์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเพชรบูรณ์ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนให้การต้อนรับ  

         ด้านนายชูชาติ  รักจิตร  อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นว่าเป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง สร้างเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช 2537 มีความจุเก็บกัก 33.22 ล้าน ลบม. มีพื้นที่ชลประทานประมาณ 31,800 ไร่

         ปัจจุบัน ในพื้นที่ขาดยังขาดแคลนน้ำในการเกษตรและอุปโภคบริโภค  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณเพิ่มน้ำต้นทุนให้เพียงพอกับความต้องการ  เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการบริโภคในอนาคต  จึงพิจารณาเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำจาก 33.22 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 37.96 ล้านลูกบาศก์เมตร  ทำให้ได้ความจุของอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 4.74 ล้านลูกบาศก์เมตร

        นายชูชาติฯ  ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก ในพื้นที่เทศบาลหล่มสักตาลเดี่ยว สักหลง วัดป่าหนองไขว่ ปากดุก ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในฤดูน้ำหลาก เนื่องจากแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีความจุเพียง 80.00 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ทั้งนี้บริเวณต้นน้ำป่าสักที่อำเภอหล่มเก่า  แม่น้ำป่าสักมีความจุลำน้ำ 360 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเกินศักยภาพการรับน้ำและการระบายน้ำของแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

        ทางกรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรเทาอุทกภัยในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์และได้วางแนวทางขอการศึกษาเบื้องต้นต่อไป.










ข้อมูล/ภาพ : สวท.เพชรบูรณ์

เพชรชัยออนไลน์

 


ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.