รมว.เกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะตรวจเยี่ยม โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นและเขื่อนลำกงพร้อมมอบหนังสือ สปก 4-01
เพชรบูรณ์-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น
พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือสปก 4-01 ให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
วันที่ 6 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น.
ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ
ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น อำเภอหล่มสัก
จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายชูชาติ รักจิตร
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ
โอกาสเดียวกันนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายรัฐบาลให้พี่น้องเกษตรกร
และหัวหน้าส่วนราชการได้รับทราบ
พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือสปก 4-01 ให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
พื้นที่อำเภอหล่มสักตำบลบ้านติ้ว และตำบลปากช่อง จำนวน 240 ราย รวม 243 แปลง ในเนื้อที่จำนวน 1,756 ไร่ มอบปัจจัยการผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์พืชให้กับเกษตรกรจำนวน 1,000 ราย
และมอบสารเร่งจุลินทรีย์ พด.จำนวน 1,000 ราย
จากนั้นช่วงบ่าย
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะได้เดินทาง
ไปยังอ่างเก็บน้ำคลองลำกงตำบลวังท่าดี อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกง
และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกร โดยมีนายสมพงษ์ มหาวังษ์ นายอำเภอหนองไผ่ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเพชรบูรณ์ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนให้การต้อนรับ
ด้านนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน
กล่าวว่าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นว่าเป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง
สร้างเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช 2537 มีความจุเก็บกัก 33.22 ล้าน ลบม.
มีพื้นที่ชลประทานประมาณ 31,800 ไร่
ปัจจุบัน
ในพื้นที่ขาดยังขาดแคลนน้ำในการเกษตรและอุปโภคบริโภค ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณเพิ่มน้ำต้นทุนให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการบริโภคในอนาคต จึงพิจารณาเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำจาก 33.22 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 37.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ได้ความจุของอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 4.74 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายชูชาติฯ ยังกล่าวด้วยว่า
ปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก ในพื้นที่เทศบาลหล่มสักตาลเดี่ยว สักหลง วัดป่าหนองไขว่ ปากดุก
ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในฤดูน้ำหลาก
เนื่องจากแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีความจุเพียง 80.00 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้บริเวณต้นน้ำป่าสักที่อำเภอหล่มเก่า แม่น้ำป่าสักมีความจุลำน้ำ 360 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งเกินศักยภาพการรับน้ำและการระบายน้ำของแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
ทางกรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เพื่อบรรเทาอุทกภัยในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก
จังหวัดเพชรบูรณ์และได้วางแนวทางขอการศึกษาเบื้องต้นต่อไป.
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น