Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

ราษฎรอำเภอเขาค้อ จาก 4 ตำบล รวมตัวค้านไม่เอาที่ราชพัสดุ

 

        เพชรบูรณ์-ราษฎรอำเภอเขาค้อ จาก 4 ตำบล รวมตัวคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดิน ของทั้ง 4 ตำบล ให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ

         วันที่ 6 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีราษฎร จาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลเขาค้อ ตำบลหนองแม่นา ตำบลสะเดาะพง และ ตำบลริมสีม่วง ได้มารวมตัวกันกว่า 200 คน เพื่อร่วมกันคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดิน ของทั้ง 4 ตำบล ให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ และ การเร่งรีบ รวบรัด การทำประชาคมฯ

       บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นแสดงความคิดเห็นกันเป็นระยะ พร้อมทั้งแจกเอกสารชี้แจงเหตุผลการที่ราษฏรออกมาคัดค้านไม่เอาที่ราชพัสดุในครั้งนี้ด้วย 

       กล่าวคือ ก่อนจะมีการประกาศให้พื้นที่ 4 ตำบล เป็นเขตป่าสงวนฯ ได้มีการสืบค้น จนพบข้อมูลจากเอกสารหลักฐานต่างๆ เรื่องการจัดที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัยของราษฎร ทั้ง 4 ตำบล ซึ่งราษฎรควรได้สิทธิในที่ดิน ตามระเบียบการจัดที่ดินฯ ของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน 2498 และพบว่าจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ เพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่


       โดยครั้งที่ 1 ในเส้นทางทุ่งสมอ-เขาค้อ กำหนดแนวเขต สองข้างทาง ข้างละ 1 กิโลเมตร ระยะทาง 10 กิโลเมตร จำนวนพื้นที่ 12,875 ไร่ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ เมื่อ 1 กันยายน 2519

      ครั้งที่ 2 มี 2 โครงการ

1. ในเส้นทางเขาค้อ-สะเดาะพง กำหนดแนวเขต สองข้างทางข้างละ กิโลเมตร ระยะทาง 14 กิโลเมตร จำนวน 17,500 ไร่

2. เส้นทางนางั่ว-หนองแม่นา กำหนดแนวเขต สองข้างทาง ข้างละ 1 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน ระยะทาง 36 กิโลเมตร จำนวน 40,000 ไร่ 

     ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ เมื่อ 26 กรกฎาคม 2520 โดยกรมที่ดินได้ดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้อง ช่วงระหว่างปี พ.ศ 2520-30 กันยายน 2527 จนแล้วเสร็จ เหลือเพียง ขั้นตอนของการออกใบจอง (น.ส.2) ให้แก่ราษฎร และ ราษฎรก็ได้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และประกาศเป็นกิ่งอำเภอเขาค้อ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.. 2527

      อีกทั้งมีพื้นที่จำนวน 6 แปลง ที่ฝ่ายทหารขอใช้พื้นที่ และ ได้จัดที่ดินให้ราษฎร ตามข้อบังคับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเขต 3 ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดที่ดิน ตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก พ.ศ 2521 หมวดที่ 4 ว่าด้วยการจัดที่ดิน ข้อ 8 ต้องดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชนของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ พ.ศ 2498 เช่นกัน เพราะฝ่ายทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดที่ดิน

      กระทั่งต่อมา กรมป่าไม้ ได้ออกประกาศให้พื้นที่ 4 ตำบล เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.. 2529 ไปทับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของราษฎร โดยไม่กันพื้นที่ของราษฎรออกก่อนจะประกาศฯ ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจนถึงปัจจุบัน

      กระทั่งเมื่อปี 2558 กระทรวงมหาดไทย เสนอให้มีการทบทวนการจัดที่ดินผืนใหญ่ทั้งหมดทุกโครงการทั่วประเทศ ตามคำแนะนำของ ปปช. โดย ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เมื่อ 1 กันยายน 2558 ให้กรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ที่เกิดจากการประกาศเขตสงวนที่ดินของรัฐและการปฎิรูปที่ดินที่ทับซ้อน พื้นที่จัดที่ดินผืนใหญ่ให้ถูกต้อง ตามกฎหมายโดยเร็วไม่ให้ราษฎรเสียสิทธิ์ โดยได้กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี คือ 30 กันยายน 2563 แต่จังหวัดเพชรบูรณ์ก็ไม่ได้ดำเนินการ

     พร้อมกันนี้ราษฎรในพื้นที่ก็ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง กมธ.ปปช. เพื่อให้ช่วยเหลือราษฎรให้ได้สิทธิตามกฎหมาย และ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการการดำเนินการ

       ขณะเดียวกันทางภาครัฐกลับเร่งดำเนินการให้เป็น ที่ราชพัสดุ โดยการเอาพื้นที่ที่ได้สิทธิ์ตามกฎหมายกลับคืนไปเป็นของรัฐ เป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนที่ควรพึงมีพึงได้ตามกฎหมาย ราษฎรเขาค้อ จึงขอคัดค้าน การที่จะเอาที่ดิน บ้านของราษฎร ที่ได้สิทธิตามกฎหมาย ผลักดันไปเป็นที่ราชพัสดุต่อไป.






เพชรชัยออนไลน์

 


ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.