ผู้ว่าฯ การันตี ไส้อั่วสมุนไพรนายพัน รสชาดอร่อย เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ
เพชรบูรณ์-ทหารผ่านศึกสู้ชีวิตทำไส้อั่วสมุนไพรนายพันขาย เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ จนผู้ว่าฯ การันตี ไส้อั่วสมุนไพรนายพัน รสชาดอร่อย ชิ้นเดียวกินกับข้าวเหนียว 5 บาท ก็อิ่มแล้ว
วันที่ 5 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีทหารผ่านศึกรายหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ สู้ชีวิตทำงานมาแล้วหลายอย่าง กระทั่งล่าสุดหันมาทำไส้อั่วสมุนไพรขายในตอนเช้า ปรากฏว่าลูกค้าแห่อุดหนุนแน่นทุกวัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงขั้นการันตีในความอร่อย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบร้านจำหน่ายไส้อั่วสมุนไพรดังกล่าว ตั้งอยู่เยื้องกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพชรบูรณ์
โดยมีสิบตรีพันคำ เทศประสิทธิ์ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 27/11 หมู่ 3 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นทหารผ่านศึก
เมื่อครั้งประจำการอยู่ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 11 รอ.(รักษาพระองค์)
จังหวัดลพบุรี หลังจากปลดประจำการก็ได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.เพชรบูรณ์
และมีครอบครัว ที่ผ่านมาตนได้ประกอบอาชีพหลายอย่างทั้ง ขายเร่ซาลาเปา
ขายไอศกรีม ขายหมูย่าง เป็น รปภ.ของสำงานงานแห่งหนึ่ง
รวมทั้งทำงานด้านสื่อมวลชนท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์
แต่เนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดโรคระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ
การประกอบอาชีพต่าง ๆ ไม่ดีเท่าที่ควร
จึงมีแนวคิดที่จะทำไส้อั่วสมุนไพรขายและใช้ชื่อว่า ไส้อั่วสมุนไพรนายพัน โดยตั้งโต๊ะ ตั้งเตาย่างขายอยู่ที่หน้าบ้าน วันแรกลองทำขาย 5 กิโล
ปรากฏว่าลูกค้า ให้การอุดหนุนเป็นอย่างดี วันต่อมาจึงเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งทุกวันนี้ ขายวันละประมาณ 12 – 15 กิโลกรัม
มีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ววันละ 1 – 2 พันบาท
สิบตรีพันคำ เทศประสิทธิ์ ยังได้เผยอีกว่า
สำหรับขั้นตอนการทำไส้อั่วสูตรของตนนั้น นอกจากเนื้อหมูที่คัดสรมาเป็นอย่างดีแล้ว
เครื่องปรุงต่าง ๆ ล้วนอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน เช่นพริก หอมแดง กระเทียม
ใบมะกรูด ผิวมะกรูด ขมิ้น ผักชี พริกไทยดำ ข่า ตะไคร้ รากผักชี ซึ่งสมุนไพรทุกอย่างจะต้องใช้วิธีการหั่นแล้วนำมาตำให้เข้ากัน
ซึ่งการตำในครกนี้จะช่วยทำให้สมุนไพรมีกลิ่นหอมมากขึ้น
จากนั้นก็นำมาคลุกเคล้ากับหมูบดจนเข้าที่และมาใส่เครื่องสำหรับยัดใส่ไส้หมู
จากนั้นก็นำไปย่างบนเตาจนสุก ส่วนไฟที่ใช้ย่างก็จะเป็นไฟอ่อน ๆ ใส่กากมะพร้าวไปด้วย
เพื่อให้มีควัน
ซึ่งควันจากกากมะพร้าวจะทำให้ไส้อั่วมีกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น
สำหรับไส้อั่วที่ทำขายนี้ตนเน้นความสด ใหม่ ไม่ทำค้างคืน
โดยตนจะตื่นมาตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปเอาหมูบดที่ตลาด
จากนั้นก็นำมาคลุกเคล้ากับพริกแกงและสมุนไพร ที่ได้เตรียมไว้จนเข้าที่
และมาใส่เครื่องสำหรับยัดใส่ไส้หมู และจะเริ่มย่างงขายตั้งแต่เวลา 06.00
น.เป็นต้นไปไม่เกิน 10.00 น.ก็ขายหมดแล้ว
ส่วนลูกค้าที่มาซื้อก็จะมีทั้งนักเรียนและคนทำงาน โดยจะขายเป็นชิ้น ๆ ละ 20 บาท
ข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท ลูกค้าบางรายก็จะสั่งซื้อจำนวนมาก ซึ่งตนก็จะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ
370 บาท ครึ่งกิโล 185 บาท
ลูกค้าที่มาซื้อต่างก็ชื่นชมว่าไส้อั่วของตนเองนั้นไม่เหมือนเจ้าอื่นเพราะย่างจนแห้งพอดี
มีความหอมของสมุนไพร และที่สำคัญชิ้นใหญ่มาก กินชิ้นเดียวกับข้าวเหนียว 5 บาท
ก็อิ่มแล้ว และที่ตนภาคภูมิใจเป็นอย่างมากก็คือท่านกฤษณ์ คงเมือง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ซื้อไปรับประทาน จากนั้นท่านก็ได้โพสต์เฟสบุ๊ค
การันตีถึงความอร่อย ยิ่งทำให้ลูกค้าแห่มาอุดหนุนมากขึ้นกว่าเดิม
ทำให้ขายหมดเร็วจนลูกค้าบอกให้เพิ่มปริมาณ
แต่ตนก็จะทำเพียงเท่าที่ทำได้ เพราะจะเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ
จึงทำให้ตอนนี้ในแต่ละวันจะมีลูกค้าโทรมาจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว
ท่านใดที่สนใจที่จะอุดหนุนหรือลองลิ้มชิมความอร่อย ของไส้อั่วสมุนไพรนายพัน
ซึ่งร้านตั้งอยู่เยื้องกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพชรบูรณ์
หรือจะโทรศัพท์สั่งจองไว้ก่อนก็ได้ที่หมายเลข 089-4614954.
อารีย์ สีแก้ว รายงาน
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น