ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ บรรจุ อำนาจคณะกรรมการสถานศึกษา เพียบ !
เพชรบูรณ์- เวทีประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ประเด็นสำคัญ เรื่อง บทบาทอำนาจหน้าที่ ของกรรมการสถานศึกษาจะมีความสำคัญมาก
บริหารงานวิชาการ งบประมาณ บุคคล และบริหารทั่วไปได้ด้วยตัวเอง
วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ที่หอประชุมโรงเรียนบ้าน กม.35 ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่
จัดเวทีประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
หัวข้อเรื่อง ความหวังปฏิรูปการศึกษาไทยกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ……
โดยมีนายดิเรก พรสีมา กรรมาธิการและที่ปรึกษา เป็นประธาน
มีผู้ร่วมอภิปราย ประกอบด้วย นายกมลเทพ จันทรจิต กรรมาธิการ นายนิวัตร นาคะเวช
ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์
ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ นายประชัน จันระวังยศ
เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
โดยมีนายรพีพงศ์ วรวัฒนกุล
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์เขต 3 กล่าวรายงาน
มีผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดในกลุ่มภาคเหนือ ครู ผู้นำชุมชน
และประชาชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังได้มีการรถ่ายทอด
ผ่านทางเฟสบุ๊คไลฟ์ เพจ โรงเรียนบ้าน กม.35 ด้วย
ทั้งนี้
เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา
สาระสำคัญในเนื้อหา พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ นั้นมีหลายมาตรา
ที่สำคัญเป็นอย่างมากเรื่องหนึ่ง คือประเด็น อำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการสถานศึกษา
โดยนายนายดิเรก พรสีมา กรรมาธิการและที่ปรึกษา กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณามีอะไรที่ต่างไปจาก
พ.ร.บ.ปี 2542 พ.ร.บ. นี้ให้ความสำคัญของการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน มาตรา 7 บอกไว้เลยว่าครู นอกจากให้ความรู้แล้วต้องทำให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ
และจุดเด่นที่ต่างไปจาก พ.ร.บ.ที่ผ่านมาก็คือ
ให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล
อาจจะรวมกันเป็นเครือข่ายสถานศึกษาก็ได้
นั่นก็คือตรงไหนพร้อมก็เป็นนิติบุคคลไปด้วยตัวของตัวเองไปเลย
หรือถ้าไม่พร้อมก็รวมกันกับสถานศึกษานิติบุคคลอื่นเป็นเครือข่ายสถานศึกษา
เมื่อเป็นสถานศึกษานิติบุคคลแล้ว ในกฎหมายนั้นเขียนไว้ว่า
ให้สถานศึกษานิติบุคคล บริหารงานทั้ง 4 ด้าน ได้ด้วยตัวเอง หรือ สถานศึกษาที่รวมกันเป็นเครือข่าย
ก็ให้บริหารงานทั้ง 4 ด้าน ได้ด้วยตนเอง
ที่เด่นๆ อีกอันหนึ่งก็คือเมื่อสถานศึกษาเป็นนิติบุคคลแล้ว ในมาตรา 35 ซึ่งว่าด้วยการบริหารงานบุคคลจะให้สถานศึกษา
มีกรรมการบริหารงานบุคคลของตัวเอง กรรมการสถานศึกษาจะมีความสำคัญมาก ก็น่าเป็นห่วง
โดยให้เครือข่ายกรรมการเครือข่ายสถานศึกษา บริหารงานทั้ง 4 ด้าน ได้ด้วยตัวเอง กรรมการสถานศึกษาบริหารงานวิชาการ งบประมาณ บุคคล
และบริหารทั่วไปได้ด้วยตัวเอง เมื่อบริหารงานบุคคลได้ด้วยตัวเอง
ทั้งจัดสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง พัฒนา ดำเนินการทางวินัยข้าราชการครูในสถานศึกษา
ในเครือข่ายได้ด้วยตัวเองอีกด้วย ความสำคัญมาก อันนี้คือสิ่งที่จะต่างไป
อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ ฉบับ พ.ศ….. ได้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้น
ในคณะกรรมาธิการวิสามัญไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการลงมติรายมาตรา
ในคณะกรรมาธิการอีกชั้นหนึ่ง ก่อนการเข้าสู่สภา ซึ่งร่างกฎหมายการศึกษาฉบับนี้ ถือเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศด้วย.
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น