รวบ 2 หนุ่ม ซุกยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ อีก 30 กก.ขณะรอการจำหน่าย

 

      เพชรบูรณ์-รวบ 2 หนุ่มค้ายาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 30 กก. รถยนต์ 4 คัน มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท ขณะรอการจำหน่าย

      วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และนายอำนาจ แย้มศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ราย คือนายสถิต ตีอิน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 17 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และนายธัญพิสิษฐ์ รอบรู้ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 /1 หมู่ 14 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

      พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม อาวุธปืน 2 กระบอกพร้อมกระสุนปืน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 1 ใบ รวมทั้งรถยนต์เก๋ง นิสสัน เซฟีโร่ สีดำ ทะเบียน ธง 4684 กรุงเทพมหานคร รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กน 4706 เพชรบูรณ์ รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา 4 ประตู ทะเบียน กต 8548 เพชรบูรณ์ รถยนต์กระบะ นิสสัน บิ๊กเอ็มตอนเดียว มีคอก สีขาว ทะเบียน 5683 ที่ดิน 2 แปลง บัญชีธนาคาร 2 เล่ม

      พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่ามีการลักลอบนำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ที่บ้านเลขที่ 249 หมู่ 10 ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และบ้านเลขที่ 97 หมู่ 11 ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งนายสถิต ตีอิน และนายธัญพิสิษฐ์ รอบรู้ เป็นผู้เช่าอยู่อาศัย เพื่อพักรอการจำหน่ายให้กับผู้ค้าในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และใกล้เคียง

      จึงได้เข้าตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท พร้อมด้วยปืน 2 กระบอกและกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และนอกจากนั้นยังได้ทำการขยายผลพร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม ได้แก่รถยนต์จำนวน 4 คัน มูลค่ารวมประมาณ 2.4 ล้านบาท ที่ดิน 2 แปลง มูลค่า 1 ล้านบาท พร้อมด้วยบัญชีธนาคาร 2 เล่ม

      พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าตนและเพื่อนอีก 1 คนที่ยังหลบหนี คือนายอำนาจ แก้วเพียร ได้นำยาบ้าและยาไอซ์ มาไว้ที่ห้องพักเพื่อรอส่งต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เสียก่อน 

      ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็น

     ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท ถึง 5 ล้านบาท หรือประหารชีวิต ส่วนความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

      ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าราคาซื้อขายยาบ้าในขณะนี้ มีราคาถูกมาก โดยราคาสั่งซื้อปริมาณมาก ๆ เช่นนี้ จะอยู่ที่ราคาเม็ดละ 10 บาทเท่านั้น ส่วนราคาซื้อขายย่อยจะอยู่ที่เม็ดละ 30 – 50 บาท เท่านั้น.

อารีย์ สีแก้ว

เพชรชัยออนไลน์