ชาวบ้านโคกตาดของดการบังคับคดี โจทก์ไม่ค้าน เลื่อนไต่สวนออกไปอีก 1 ปี
วันที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการนัดไต่สวนเรื่องชาวบ้านโคกตาดร้องของดการบังคับคดี
จากคดีป่าโคกตาด ตำบลนางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
โดยนัดไต่สวนคำร้องโจทก์ มีนายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายกเทศบาลตำบลนางั่ว
นายก้องกิดาการ ประพันธ์บัณฑิต
หัวหน้าฝ่ายรังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ตัวแทนจากกรมที่ดิน จำเลยที่
1 และจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 และ ทนายจำเลยทั้ง 9 มาศาลส่วนจำเลยที่ 2
ทราบนัดหรือชอบแล้วไม่มา
ศาลสอบคู่ความแล้ว
ฝ่ายจำเลยแถลงว่าได้มีการตรวจสอบที่ดินแล้วที่ดินในคดีนี้มีความคลาดเคลื่อน
ซึ่งขณะนี้ทางอำเภอฯ ขอรังวัดที่ดินทั้งหมด แต่เนื่องจากในวันนัดรังวัด
ไม่มีผู้ไปนำชี้แนวเขต เนื่องจากติดเชื้อโควิท-19 ในส่วนของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎรเองก็ ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
ขณะที่ฝ่ายโจทก์แถลงว่า
ขณะนี้หลักฐานยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าที่ดินที่พิพาทไม่ใช่ที่หลวง
จึงต้องถือว่าที่ดินที่พิพาทเป็นที่หลวงอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่คัดค้าน
หากฝ่ายจำเลย ขอเลื่อนการไต่สวนในวันนี้ ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน
เพื่อรอฟังผลการดำเนินการรังวัด
ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตเลื่อนการนัดไต่สวนออกไปก่อนในวันนี้
โดยให้นัดฟังผลการรังวัดและไต่สวนต่อ ในวันที่ 24 เมษายน 2566 เวลา 10:00 น.
ซึ่งก่อนการเข้ารับฟังการไต่สวน นายก้องกิดาการ ประพันธ์บัณฑิต ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นผู้แทนจากกรมที่ดินได้กล่าวว่า ตำแหน่งของหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.)เลขที่159 เดิมในรูปถ่ายทางอากาศระบุ ตำแหน่งว่าอยู่ในระวาง 5241 ซีรี่ 4 แผ่น 7-8 ต่อมาก็ได้มีการรังวัดใหม่ แล้วก็เปลี่ยนเป็น ระบบพิกัด ยูทีเอ็ม
ซึ่งก็อยู่ในระวางหมายเลข 5241 ซีรี่ 4 2422 2424 2622 2624 แล้วก็เมื่อนำรูปตำแหน่งในระบบพิกัด ยูทีเอ็ม
ย้อนกลับไปลงในระวางรูปถ่ายทางอากาศไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ปรากฏว่าอยู่ในระวางรูปถ่ายทางอากาศหมายเลข 5241 ซีรี่ 4 แผ่น 7 แผ่น 6 และ 5246 ซีรี่ 3 แผ่น 175
176 ซึ่งก็ไม่ตรงตำแหน่ง แต่เดิมที่ได้มีการรังวัดเพื่อออก
นสล. เมื่อปี 2528 แล้วก็ประกอบกับตำแหน่งในรูปแผนที่หลัง
หนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.)เลขที่ 159 ทางด้านทิศเหนือแจ้งจดคลองห้วยสะพานขาด ทางทิศตะวันตกแจ้งจดคลองห้วยท่า
แต่จากการตรวจสอบใน ภูมิประเทศก็ ก็มิได้จดแจ้งคลองดังกล่าวแต่อย่างใด
ประกอบกับได้รับจากผู้นำรังวัดในปี 2538 และ 2550 ซึ่งได้แจ้งให้ทราบว่ามิได้นำช่างไปทำการรังวัดแต่อย่างใด
ดังนั้นผมจึงเชื่อได้ว่า การรังวัดตั้งแต่ปี 2528 2530 2538 มิได้มีการรังวัดอย่างแท้จริง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ทางผมนี้ได้รายงานให้ทางอธิบดีฯทราบเบื้องต้นไปแล้วครับ
ด้านนายบุญธร อุปนันท์ ทนายความ
กล่าวว่า วันนี้เนื่องจากเป็นการนัดไต่สวน
คำร้องของดการบังคับคดีของจำเลย ส่วนที่ได้ยื่นต่อศาลไว้
และก็ได้เลื่อนมาหลายครั้ง โดยจำเลยก็ได้ขอความกรุณาจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างเช่นหัวหน้ารังวัดที่ดิน แล้วก็ ส.ส.ที่เป็นกรรมาธิการของ ป.ป.ช.ให้มาช่วยเป็นพยาน
เพื่อที่จะแถลงต่อศาลให้ข้อเท็จจริงว่าที่ดินที่เป็นกรณีพิพาทในคดีนี้
คือที่ดินแปลงสาธารณป่าโคกตาด นสล.เลขที่ 159
ณ ตอนนี้มันมีข้อเท็จจริง ที่ปรากฏ
ค่อนข้างชัดเจนพอสมควรว่ามันเป็นการออกโดยมิชอบ
เป็นการออกที่ผิดระเบียบของกรมที่ดิน ที่ดินของหลวงที่ออกโดยมิชอบนี้
เอามาฟ้องชาวบ้านเป็นจำเลยหลายๆราย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ขณะเดียวกัน ในเรื่องการบริหารจัดการสำหรับที่หลวงนี้
ว่ากันจริงๆแล้วตามกฎหมาย มันไม่ได้มีอายุความ มันจะไปบังคับคดีเอาตอนไหนก็ได้
ถามว่าในส่วนของผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ที่ตามหน้าที่
ตามอำนาจหน้าที่เป็นผู้ที่ดูแลที่หลวง ก็คือ ท้องถิ่นร่วมกับนายอำเภอ
ถ้าทราบข้อเท็จจริงแล้วว่าที่ แปลงนี้ออกโดยไม่ชอบ ก็ควรที่จะระงับไว้ก่อน
หาความชัดเจน หาจุดที่มันแน่นอนก่อน ค่อยว่ากันในอนาคตข้างหน้า
และแนวทางแก้ปัญหาสำหรับการบุกรุกที่หลวง มันก็มีมาตรการอื่น
ที่สามารถที่จะปฏิบัติกันได้ ไม่ใช่มา ฟ้องร้องขับไล่ ชาวบ้านกันแบบนี้นะครับ.
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น