Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

 

ได้เวลาพิสูจน์ความจริง กรณีที่ดินสาธารณป่าโคกตาด

รัฐดำเนินการผิดพลาด หรือ ชาวบ้านผิด


    หลากหลายกรณีกับปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากการละเมิดสิทธิ์ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย หลายกรณีล้วนมาจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในอดีต และ ปัจจุบัน ปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัด ว่าอาจเกิดจากความผิดพลาดจากการกระทำ โดยเจ้าหน้าที่รัฐ จนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับความเดือดร้อน อย่างแสนสาหัส บ้านแตกสาแหลกขาด บางรายถึงกับตรอมใจตาย

     นั่นก็คือปัญหาที่ดินสาธารณป่าโคกตาด ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มตั้งแต่กระบวนการแรกที่จะมีการดำเนินคดีกับชาวบ้าน ดูเคลือบแคลงสงสัย มีความผิดปกติ มีความไม่ชอบมาพากล เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหา โดยการที่ผู้ถูกฟ้องพาผู้ฟ้องคดี  นั่งรถไปศาลปกครองด้วยกัน  เพื่อร้องต่อศาลปกครอง ให้ขับไล่ชาวบ้านจำนวน 66 ราย กระทั่งศาลปกครองมีคำสั่ง ให้ขับไล่ผู้บุกรุก

     โดยมีรายชื่อผู้บุกรุกจำนวน 66 ราย อยู่ในสำนวนฟ้อง พอถึงขั้นตอนการแจ้งความความดำเนินคดีกับชาวบ้าน แทนที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีตามสำนวนฟ้อง พบมีเพียง 1 ราย ในจำนวน 66 ราย ที่อยู่ในสำนวนฟ้อง ถูกดำเนินคดี  แต่กลับเลือกที่จะไปดำเนินคดีกับชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งที่ไม่มีรายชื่อระบุอยู่ในสำนวนฟ้องเลย จำนวน 26 รายแทน

    นับตั้งแต่ชาวบ้านถูกดำเนินคดีก็ได้ร้องคัดค้านปฏิเสธตลอดเรื่อยมา ว่าเขาไม่ได้บุกรุกเข้าไปอยู่ในที่ดินสาธารณะตามข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะชาวบ้านไม่มีหลักฐานที่จะไปโต้แย้งหักล้างจากข้อกล่าวหาจากทางการได้ จึงต้องจำยอมรับสารภาพ และในที่สุดก็ถูกบังคับคดี ซึ่งระหว่างที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านนั้น ชาวบ้านก็ไม่ลดละความพยายามได้แสวงหาเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อที่จะนำมาหักล้างข้อกล่าวหาดังกล่าว

     จึงได้พยายามสืบเสาะค้นหาเอกสารหลักฐานจนกระทั่งไปพบหลักฐานหลายชิ้นที่สำคัญ ที่เชื่อได้ว่าการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ที่พช.159 เนื้อที่ 1,997 ไร่เศษ ที่เป็นเอกสารสำคัญ พบว่ามีพิรุธ ออกโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกรมที่ดิน ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เนื่องจากไปออกนอกเขตที่กระทรวงมหาดไทย ประกาศขึ้นทะเบียนไว้เมื่อ ปี 2469 กว้าง 100 เส้น ยาว 100 เส้น เนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่ และได้กำหนดหลักเขตไว้ชัดเจน คือ ทิศเหนือจดหลักเขตต์ (หลักเขตต์ก็คือเขตแดนระหว่างตำบลต่อตำบล) คือ ตำบลป่าเลากับตำบลนางั่ว ทิศใต้จดโคกหนองหอย ทิศตะวันออกจดโคกน้อย และ ทิศตะวันตกจดโคกคอบแคบ

     จากนั้นจึงได้หอบหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอให้มีการชะลอการบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อขอให้มีการตรวจสอบ พิสูจน์สิทธิ์ ในการรังวัดที่ดินสาธารณแปลงป่าโคกตาดใหม่ ซึ่งก็ได้รับการผ่อนผันจากทางจังหวัดเรื่อยมาเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ตามที่ชาวบ้านร้องขอ จากทางจังหวัดฯ ชาวบ้านจึงหันหน้าเข้าพึ่งพาหน่วยงานอื่นๆ ที่เขาหวังว่าจะได้รับความสนใจมากกว่า เพื่อที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพวกเขาได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ จึงได้บากหน้าเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ ของ สภาผู้แทนราษฎร หลายคณะ และหน่วยงานราชการ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดินฯลฯ ตลอดจน ส..ในพื้นที่

      ล่าสุดทางคณะกรรมาธิการ ป...ได้มีความเห็นว่าค่อนข้างชัดเจน ว่าเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยการออกเอกสารสำคัญสำหรับที่หลวงแปลง 159 ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความจริง ดังปรากฏ เป็นข่าวทางสื่อมวลชนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรื่องมาจนถึงขนาดนี้แล้วมีเจ้าหน้าที่รัฐ ยังจะพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีกหรือ พยายามยื้อเวลาตลอดเรื่อยมา ใช้วาทกรรมต่างๆ นานา เพื่อหนีความรับผิดชอบหรือไม่

     ปัญหาเรื่องนี้รัฐไม่ควรปล่อยให้ยืดเยื้อ เพราะรังแต่จะทำให้รัฐเสียหาย ไม่เกิดผลดีกับรัฐเองเลยแม้แต่น้อย ทำให้ภาพลักษณ์หน่วยงานรัฐเสียหาย ประชาชนขาดความเชื่อมั่น รัฐควรรีบพิสูจน์ความจริงโดยเร็ว และรีบรังวัดใหม่ ให้เป็นไปตามหลักฐานที่กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดจดแจ้งไว้ ตั้งแต่ปี 2469 ซึ่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้มีการจดบันทึกรายละเอียด โดยได้กำหนดทิศไว้ชัดเจน จากไหนถึงไหน ระยะก็บอกไว้ชัดเจน ว่ากว้าง-ยาว เท่าไหร่ เนื้อที่เท่าไหร่ เพราะจะได้รู้กันเสียทีว่า ชาวบ้านผิด หรือ หน่วยงานของรัฐเองทำผิด หากว่าหน่วยงานรัฐทำผิดจริง ก็ควรรีบแก้ไขเพิกถอน นสล.แปลงดังกล่าวเสียโดยเร็ว เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับชาวบ้าน แต่ หากพิสูจน์แล้วว่าชาวบ้านผิด ชาวบ้านเขาก็พร้อมที่จะรื้อถอน โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น รัฐไม่ต้องกลัวเสียหน้า เพราะความจริง ก็คือ ความจริง ชาวบ้านจะได้หายคลางแคลงใจ อย่าได้ผลักไสไล่ส่ง เขาอีกเลย

       จึงอยากเรียกร้องให้การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงในครั้งนี้ หรือ ครั้งไหนต่อๆ ไปก็แล้วแต่ ก็ต้องยึดจากเอกสารสำคัญของทางราชชกาชการ ที่สำคัญในการที่จะมีการรังวัดที่สาธารณป่าโคกตาดใหม่ ที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 23 มีนาคม 2565 นั้น ก็ขอให้ยึดข้อมูล จากเอกสารหลักฐาน ที่ทางการตามที่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้ ตั้งแต่ปี 2469 เป็นสำคัญ อย่าได้เฉไฉ เบี่ยงเบน เล่นกลลวง อะไรอีกเลย เพื่อเรียกศรัทรา ความเชื่อมั่น จากประชาชนกลับคืนมา. 

ขุนพลเพชรบูรณ์




เพชรชัยออนไลน์

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.