กมธ.ป.ป.ช.ฯ ตรวจสอบเข้ม ที่สาธารณะโคกตาด
หากพบ จนท.กระทำผิด จะดำเนินการตรงไปตรงมา
วันที่ 16 มีนามคม 2565 นายชูชาย บุญรอด นางสุรภา เมฆอรุณ นายฟื้น เกตุแฟง และ นายบ่าย
สุกเมือง พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฏร ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ชั้น 3 อาคารรัฐสภาไทย
โดยมีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานในที่ประชุม มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ผู้รับผิดชอบสำนวน การรังวัดออก
นสล.พช.159 จากที่ดิน โคกตาด ทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะ 10,000 ไร่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าชี้แจง ขณะที่นายฟื้น เกตุแฟง อดีตกำนันตำบลป่าเลา ก็ได้ยืนยัน
ต่อที่ประชุมฯ ว่าตนเองไม่เคยได้นำชี้รังวัดที่สาธารณะแปลงป่าโคกตาด ในปี 2538 แต่อย่างใด ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ก็รับที่จะไปติดตามตรวจสอบและแก้ไขกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จ
นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษก กมธ.ป.ป.ช. ก็ได้แถลงต่อสื่อมวลชน
ว่าสืบเนื่องจากกรณีมีชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณ ตำบลนางั่ว อำเภอเมือง
จังหวัดเพชรบูรณ์ มาร้องเรียนต่อ กมธ.ปปช. ขอให้ตรวจสอบนายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์
และนายกเทศมนตรีตำบลนางั่ว แก้ไขหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ พ.ช.159
โดยการแก้ไขระวางรูปแผนที่ทางอากาศหมายเลข 5241 IV แผ่น 7 และ 8
มีผลให้ตำแหน่งที่ตั้งของที่ดินไปทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน
เป็นเหตุให้ผู้ร้องกับพวกถูกดำเนินคดี
เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2469 กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศหวงห้ามให้ที่ดินบริเวณตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกันเพื่อใช้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ โดยกำหนดตำแหน่งและพิกัดทั้ง 4 ทิศ ไว้ชัดเจน คือ ทิศเหนือจดหลักเขตต์ ทิศใต้จดโคกหนองหอย ทิศตะวันออก จดโคกน้อย ทิศตะวันตก จดโคกคอบแคบ และ ได้กำหนดขนาดที่ดินไว้ชัดเจนว่า มีขนาดกว้าง 100 เส้น ยาว 100 เส้น รวมเนื้อที่ 10,000 ไร่ และขึ้นทะเบียนที่ดินดังกล่าวไว้ในลำดับที่ 28 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2469
ต่อมามีการรังวัดแนวเขตที่ดินเพื่อทำการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงหลายครั้ง ได้เนื้อที่เพียง1,977-2-08 ไร่ มีความแตกต่างจากที่ได้ออกประกาศหวงห้ามไว้ในปี 2469 ที่ประมาณ 10,000 ไร่ เป็นอย่างมาก ซึ่งต่อมาในปี 2541 อธิบดีกรมที่ดินได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ พ.ซ.159 ตามข้อมูลการรังวัดที่ได้เนื้อที่ 1,977-2-08 ไร่ ดังกล่าว โดยมีพื้นที่อยู่ในระวางรูปแผนที่ทางอากาศหมายเลข 5241 IV แผ่น 7และ 8
ต่อมาเนื่องจากกรมที่ดินได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการกำหนดพิกัดและตัดขอบระวางที่ดินระบบจากระบบเดิมมาเป็นระบบ UTM ที่มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 โดยในปี 2545 ได้มีการปรับเปลี่ยนเลขระวางรูปแผ่นที่ทางอากาศหมายเลข 5241 IV แผ่น 7 และ 8 มาเป็น 5241V 2424
กรณีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ที่ พ.ช.159 ดังกล่าว ฝ่ายประชาชนในพื้นที่ได้โต้แย้งไว้หลายประเด็น โดยมีความผิดปกติที่สำคัญดังนี้
1.เขตพื้นที่ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ที่ พ.ช.159 ในระวางรูปแผนที่ทางอากาศหมายเลข 524 1V 2424 ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในแนวเขตตำแหน่งและพิกัดทั้ง 4 ทิศที่กำหนดไว้ในทะเบียนที่ดินสาธารณะในปี 2469 คือ ทิศเหนือจดหลักเขตต์ ทิศใต้จดโคกหนองหอย ทิศตะวันออกจดโคกน้อย ทิศตะวันตกจดโคกคอบแคบ
2.การนำชี้รังวัดที่ดินในปี 2538 โดยมีนายพื้น เกตุแฟง กำนันตำบลปาเลาในขณะนั้น
เป็นผู้นำชี้รังวัดละเป็นผู้รับรองแนวเขตที่ดินข้างเคียงทุกด้านของที่สาธารณะประโยชน์แปลงโคกตาด
ปรากฎว่านายฟื้นได้มายืนยันด้วยตนเองต่อหน้า กมธ.ปปช. และข้าราชการหน่วยงานต่างๆ
ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ในระหว่างที่ กมธ.ปปช. ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้
โดยยืนยันว่าตนเองไม่เคยไปนำรังวัดดังกล่าวแต่อย่างใด
และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว
3.ได้มีผู้เชี่ยวซาญทางด้านแผนที่จากกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้มาตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว และยืนยันว่า การปรับเปลี่ยนเลขระวางรูปแผนที่ทางอากาศหมายเลข 5241 Iv แผ่น 7 และ 8 มาเป็น 5241V 2424 ของกรมที่ดินมีความผิดพลาด ที่ถูกต้องควรจะเป็น 5241IV 2622 และ 5241IV 2822 จึงจะเป็นตำแหน่งเดิม การเปลี่ยนมาเป็นแผ่นที่ 5241V 2424 จึงทำให้ตำแหน่งที่ดินสาธารณะเปลี่ยนไป นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ในแผ่นที่ 5241V 2424 ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ที่ พ.ช.159 ยังมีสภาพเป็น ภูเขา สภาพทางกายภาพ ไม่ได้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ ตามที่ได้เคยออกประกาศหวงห้ามไว้ให้พลเมืองใช้ร่วมกันในปี 2469 แต่อย่างใด
ในเรื่องนี้ กมธ.ป.ป.ช.ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลหลายรายแล้ว และได้ลงพื้นที่จริงเพื่อไปตรวจสอบด้วย พบว่า หากข้อโต้แย้งของประชาชนเป็นความจริง พื้นที่บริเวณที่น่าจะอยู่ภายในเขต 10,000 ไร่ ที่มีทิศเหนือจดหลักเขตต์ ทิศใต้จดโคกหนองหอย ทิศตะวันออกจดโคกน้อย ทิศตะวันตกจดโคกคอบแคบ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะตามทะเบียนที่ดินสาธารณะลำดับที่ 28 ในปี 2469 ดังกล่าว ในปัจจุบันมีนายทุนข้าราชการและนักการเมือง เข้าไปครอบครองจำนวนมาก และได้มีการออกเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินไปแล้วด้วย
ในวันนี้ กมธ.ป.ป.ช. ได้เชิญ รมต.กระทรวงมหาดไทย เข้ามาชี้แจงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบและการแก้ไขกรณีดังกล่าว เนื่องจากในวันที่ 23 มีนาคม 2565 นี้ กรมที่ดินจะมีการทำรังวัดพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่ที่เหลืออีก 8 พันกว่าไร่อยู่บริเวณใด
อย่างไรก็ดีในเรื่องดังกล่าว รมต.กระทรวงมหาดไทย
ต้องกำชับให้กรมที่ดินทำการรังวัดอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส
สามารถอธิบายให้กับสังคมได้ โดยต้องยึดแนวเขตพื้นที่สาธารณะที่ปรากฎตาม
ทะเบียนที่ดินสาธารณะแปลง โคกตาด ลำดับที่ 28 ที่ได้กำหนดตำแหน่งและพิกัดทั้ง 4 ทิศไว้ชัดเจน คือ ทิศเหนือจดหลักเขตต์ ทิศใต้จดโคกหนองหอย
ทิศตะวันออกจดโคกน้อย ทิศตะวันตกจดโคกคอบแคบ และได้กำหนดขนาดที่ดินไว้ชัดเจนว่า
มีขนาดกว้าง 100 เส้น ยาว 100 เส้น รวมเนื้อที่ 10,000 ตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว กมธ.ป.ป.ช.จะติดตาม
ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำผิดต่อหน้าที่ จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาต่อไป.
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น