Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

 

ชาวบ้านพา ส.ลงพื้นที่ดูหลักเขต

กรณีพิพาทที่สาธารณะป่าโคกตาด


    เพชรบูรณ์-สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ลงพื้นที่ พบปะเยี่ยมเยือนชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ป่าโคกตาด ชาวบ้านพานำชี้แนวหลักเขต นับเป็นการนำชี้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8

    วันที่ 3 มีนาคม 2565 นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ (ส.ส.ปอย) สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ พบปะเยี่ยมเยือนชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ป่าโคกตาด ตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกันนี้ชาวบ้านได้มอบเอกสารหลักฐานต่างๆที่ได้รวบรวมไว้ให้กับนางสาวพิมพ์พรฯด้วย

     ขณะเดียวกันชาวบ้านโดยการนำของนายชูชาย บุญรอด นางสุรภา เมฆอรุณ นายฟื้น เกตุแฟง อดีตกำนันตำบลป่าเลา และ นายพิง แย้มศรี ปัจจุบัน อายุ 82 ปี ได้พานางสาวพิมพ์พรฯ ลงพื้นที่เพื่อนำชี้ แนวหลักเขตเดิม ทั้ง 4 ทิศ ที่ทางราชการได้มีการบันทึกจดแจ้งแนวเขตไว้ เป็นหลักฐาน เพื่อสงวนไว้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ นับเป็นการนำชี้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการนำชี้ต่อคณะกรรมาธิการแล้วหลายคณะ


      นางพิมพ์พรฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มารับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินป่าโคกตาด จริงๆแล้วเรื่องที่ดินป่าโคกตาดนี้ พี่น้องได้ต่อสู้กันมายาวนาน และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนมาหลายคณะกรรมาธิการกับผู้แทนหลายคนจนมาถึงตัว ส.ที่ร่วมรับฟังปัญหา ซึ่งเบื้องต้นที่ทำได้ตอนนี้ก็คือก็จะรับเรื่อง ไปประสานกับกรมที่ดิน ในส่วนของสำนักรังวัดที่ดิน

        เพื่อให้นำเรื่องออกไปพิจารณาพิสูจน์สิทธิ์ให้กับพี่น้องชาวโคกตาดต่อไป ก็ต้องขอขอบคุณที่ได้สละเวลามาพา ส..ปอย ลงพื้นที่จริง มาเองได้มาสัมผัสกับพี่ๆ มาดูพื้นที่ๆมีปัญหาจริงๆ ต้นเหตุ สาเหตุมาจากอะไร ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราได้เห็นปัญหาข้อเท็จจริง ที่ได้รับฟังจากพี่น้องที่ได้อยู่อาศัยจริงๆเพราะมีมานานหลายปี ก็จะพยายามที่จะไปแก้ไข ก็อย่างที่บอกว่าเบื้องต้น ว่าเราจะไปหากรมที่ดินก่อน เพื่อให้เขามารังวัดเพื่อแก้ไขให้พวกเรา ก็เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนอย่าเพิ่งท้อ 

      ทั้งนี้ปัญหากรณีพิพาทเรื่องที่ดินสาธารณะป่าโคกตาด ระหว่างรัฐ กับ ชาวบ้าน ที่ได้สร้างตราบาปให้กับชาวบ้านจนเป็นเหตุทำให้ชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อน จากการออกเอกสารหลักฐาน หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เลขที่ พช.159 เนื้อที่ 1,977-2-08 ไร่ ที่ทางรัฐออกผิดพลาดคลาดเคลื่อน ค่อนข้างชัดเจน อันเป็นเหตุนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้าน จนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดี และชาวบ้านก็ได้ใช้สิทธิ์โต้แย้ง ขอให้ชะลอการบังคับคดีไว้ก่อน

    เนื่องจากพบหลักฐานใหม่ ที่เชื่อได้ว่าการออก หนังสือสำคัญที่หลวง หรือ นสลแปลงดังกล่าวนั้นออกไม่ชอบตามระเบียบกรมที่ดินและผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ไม่ตรงตามเอกสารหลักฐานที่มหาดไทยประกาศและได้มีการจดแจ้งไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2469 เพื่อสงวนไว้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ สำหรับเลี้ยงสัตว์ โดยไม่ได้ออกอยู่ในกรอบหรือขอบเขต 10,000 ไร่ ที่ทางราชชการได้จดแจ้งไว้ ซึ่งได้มีบันทึกแนวหลักเขตไว้ชัดเจนทั้ง 4 ทิศ กว้าง 100 เส้น ยาว 100 เส้น เนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่ โดย ทิศเหนือ จด หลักเขต (แดนตำบลต่อตำบล คือ ตำบลป่าเลากับตำบลนางั่ว) ทิศใต้ จด โคกหนองหอย ทิศตะวันออก จด โคกน้อย และ ทิศตะวันตก จด โคกคอบแคบ.




เพชรชัยออนไลน์

     

 

 


ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.