Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

 

วีระ ! เดินหน้าลุย

ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านป่าเลา


       เพชรบูรณ์-เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น พร้อมทนายเดินหน้าลุยลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีปัญหาเรื่องที่ดินป่าโคกตาด

       วันที่ 4 ธันวาคม 2564 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น พร้อมทนายความ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีปัญหาเรื่องที่ดินป่าโคกตาด ตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน นับเป็นการลงพื้นที่เป็นครั้งที่ 3 โดยมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้เข้าพบ พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม และเตรียมรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับชาวบ้านในครั้งนี้ทุกคน ซึ่งในวันที่ 7 ธันวาคม เวลา 13.00 นายวีระ สมความคิด ก็จะเดินทางเข้าพบ นาย กฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสอบถามติดตามความคืบหน้าตลอดจนแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านอีกด้วย

       จากปัญหาที่ราษฎรหมู่ 10 ตำบลป่าเลา และ หมู่ 1 ตำบลนางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาป่าบ้านโคกตาด ที่กลุ่มราษฎรจำนวน 26 ราย ได้ถูกทางการดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ (ที่ดิน นสล.) แปลงเลขที่ 159 ในท้องที่ดังกล่าว ขณะะนี้อยู่ระหว่างชะลอการบังคับคดีเพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก


     ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากได้มีผู้นำเรื่องไปฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก กล่าวหา นายอำเภอ และนายกองค์การบริหารตำบลป่าเลา ฐานละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งศาลปกครองพิษณุโลกตัดสิน ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ออกจากพื้นที่ จากนั้นทางราชการ จึงได้มีการนำคำสั่งศาลปกครอง ไปแจ้งความดำเนินคดีกับราษฎรดังกล่าว

       ระหว่างที่ถูกดำเนินคดีในศาลชั้นต้นราษฎรไม่มีโอกาสนำพยานหลักฐานทางราชการไปต่อสู้คดี กระทั่งภายหลังราษฎรพบหลักฐานใหม่ ว่ามีภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารปี 2535 จึงได้นำแผนที่ดังกล่าวมาแสดง พร้อมชี้ให้เห็นว่าที่ดิน นสล.ที่พช.159 ที่ใช้ดำเนินคดีกับราษฎรเป็นคนละแปลงกับที่ดินที่ราษฎรอาศัยอยู่ จึงเรียกร้องให้มีการพิสูจน์รังวัดที่ดิน นสล.ที่พช.159 และที่ดินสาธารณะป่าโคกตาดจำนวน 10,000 ไร่ใหม่ทั้งแปลง

       จนถึงขณะนี้ที่ดินดังกล่าว ก็ยังไม่ได้มีการพิสูจน์รังวัดที่ดิน นสล.ที่พช.159 และที่ดินสาธารณะป่าโคกตาดจำนวน 10,000 ไร่ ใหม่แต่อย่างใด ตามที่ประชาชนร้องขอ พร้อม ขอให้ตรวจสอบที่ดิน นสล.แปลงที่พช.159 เนื้อที่ 1,977 ไร่ ว่าอยู่ในแปลงที่ดินสาธารณะประโยชน์ป่าโคกตาด 10,000 ไร่ จริงหรือไม่ ขณะเดียวกันชาวบ้านก็เตรียมทำหนังสือร้องหน่วยงานที่เกี่ยวให้เพิกถอนที่ นสล.แปลงที่พช.159 เนื้อที่ 1,977 ไร่ ด้วยเช่นกัน  อย่างไรก็ดีรายงานข่าวแจ้งว่าที่ดินสาธารณะประโยชน์ป่าโคกตาด ปัจจุบันได้ถูกบุกรุกออกโฉนดเกือบหมดทั้งแปลงแล้ว.




เพชรชัยออนไลน์


 

 


ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.