ชาวม้งร้องขอกลับ
ภูมิลำเนาเดิมบ้านภูขี้เถ้า
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายนิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ารับหนังสือจากนายหน่อใจ แซ่หลอ
พร้อม กลุ่ม ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 22 ครอบครัว
ยื่นหนังสือขอกลับภูมิลำเนาเดิมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
บ้านภูขี้เถ้า ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 หลังอพยพออกมาจากบ้านภูขี้เถ้า
มามอบตัวที่ศูนย์เร่งรับผู้กลับใจ กองทัพภาคที่ 3 บ้านเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จากการสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาล
ทำให้กลายเป็นผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน
สำหรับการยื่นหนังสือขอกลับภูมิลำเนาเดิมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
บ้านภูขี้เถ้า ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สืบเนื่องจาก นายหน่อใจ
แซ่หลอ พร้อม กลุ่ม ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 22 ครอบครัว 177 คน
เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านภูขี้เถ้า หมู่ที่ 6 ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และพื้นที่ดังกล่าวในอดีตได้กลายเป็นสนามรบ
ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลเมื่อปี 2511 ทำให้ ทั้ง 22 ครอบครัวได้
มอบตัวที่ศูนย์เร่งรับผู้กลับใจ กองทัพภาคที่ 3 บ้านเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
และทำให้เป็นคนไร้ที่ดินทำกิน
หลังเหตุการณ์สงบ รัฐบาลจะส่งกลับภูมิลำเนาเดิม
ตามหนังสือปล่อยตัวศูนย์การุณยเทพ
แต่ได้มีการประกาศอุทยานภูหินร่องกล้าทับหมู่บ้านภูขี้เถ้าและที่ดินทำกิน
ทำให้ไม่สามารถเข้าไปอาศัยและทำกินได้เพราะขัดต่อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งในโอกาสนี้ นายนิเวศน์ หาญสมุทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์
ได้เข้ารับหนังสือร้องจาก นายหน่อใจ แซ่หลอ พร้อม กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 22 ครอบครัว โดยจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมระดับจังหวัด
เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเชื้อสายม้ง ต่อไป.
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น