Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

 

ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อ

ติงปล่อยทิ้งมันจะกู่ไม่กลับ


       เพชรบูรณ์-ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนผ่อนผัน เรื่องการแก้ไขปัญหาที่พัก (โรงแรม) ตามประกาศจังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนี้เหลืออย่างเดียวที่ดึงเงินเข้าจังหวัดคือการท่องเที่ยว ติงปล่อยทิ้งไว้แบบนี้เศรษฐกิจจะเสียหายมากมันจะกู่ไม่กลับ ช่วงนี้เริ่มต้นไฮซีซั่นเข้ามาแล้ว

       ผลพวงจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 6/2562 ที่สิ้นสุดผลบังคับใช้ เมื่อ 18 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา จังหวัดเพชรบูรณ์จึงได้มีประกาศ ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานที่พักโรงแรม โดยให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่พักที่มีลักษณะประกอบธุรกิจโรงแรม ให้หยุดประกอบธุรกิจโรงแรม ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2564 ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าข่าย 457 แห่ง ใน 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ ต่างได้รับความเดือดร้อน

      กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่วันที่ 1 กันยายน 2564 องค์กรธุรกิจภาคเอกชนจำนวน 5 องค์กร โดยมีนายวุฒิชัย โรจน์ทิพยรัก นายกสมาคมท่องเที่ยวเพชรบูรณ์ นายธงชัย กฤตยามงคลชัย นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อ นายยชสุธา วิชัยธนพัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบูรณ์ นายจุลพงษ์ คุ้นวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบูรณ์ และนายกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมคณะ ผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก อำเภอเขาค้อ ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องขอให้พิจารณาทบทวนผ่อนผัน เรื่องการแก้ไขปัญหาที่พัก (โรงแรม) ตามประกาศจังหวัดเพชรบูรณ์ ออกไปก่อนอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเพชรบูรณ์ และบอบช้ำจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี แล้ว


         นายวุฒิชัย โรจน์ทิพยรัก นายกสมาคมท่องเที่ยวเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่ต้นไฮซีซั่นเริ่มมาแล้ว ตอนนี้ วันนี้พวกผมก็ขอยืดระยะเวลาการกำหนดจากวันที่ 18 สิงหาคม ยังไงให้พวกที่เขาลงทุนไปแล้วมีโอกาสที่จะได้หายใจบ้างซึ่งปีนี้นักท่องเที่ยวจากเดิมๆอยู่เนี่ยลดเหลือ 20 % จะฟื้นเศรษฐกิจก็ต้องการท่องเที่ยวอย่างเดียว เขาค้อมีรูปแบบการท่องเที่ยวทุกมิติเลย จะเอาเชิงไหน เชิงสุขภาพ เชิงประวัติศาสตร์ เชิงวัฒนธรรม อะไรของเรามีครบหมด    

        ตอนนี้เหลืออย่างเดียวที่ดึงเงินเข้าจังหวัดคือการท่องเที่ยว ภาคเกษตรดึงเข้าได้เหมือนกันแต่ชาวบ้านเจ็บตัวมันไม่ได้อะไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้เศรษฐกิจจะเสียหายมากมันจะกู่ไม่กลับ 80% เศรษฐกิจเพชรบูรณ์ ถ้าปิดตรงนี้ ก็คือรายได้หลักตอนนี้เพชรบูรณ์เราได้จากการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยว มันไม่ได้เฉพาะบนเขาค้อ มันได้กับพี่น้องเกษตรกรที่ผลิตพืชผักด้วยแล้วก็ตั้งแต่ศรีเทพมา มันได้ประโยชน์ทั้งนั้นเลย คือร้านค้าข้างทาง สถานีบริการอะไรนี่นะ คือได้รับผลประโยชนเต็มๆหมดเลย คือตอนนี้อย่าว่าแต่จังหวัดเพชรบูรณ์เลย ทั่วประเทศคือการท่องเที่ยวเป็นหลัก

       ถ้าตรงนี้เราปิดไปอย่างนี้ ผมถามว่าเพชรบูรณ์นี่เสียหาย 70-80% เลยนะ คือจริงๆแล้วมันจะต้องส่งเสริมให้เป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยว กลางใจประเทศคือจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเรามีวัตถุดิบทุกชนิด ในเรื่องการท่องเที่ยวมีพร้อมหมดเลย สิ่งหนึ่งที่มันดึงเข้าไปด้วยคือเรื่องอาหารการกิน คือเกษตรกรทำอาหารพืชผักปลอดภัย รับนักท่องเที่ยวปีหนึ่ง 2 ล้านกว่าคน ซื้อกลับบ้านพร้อมอย่างนี้ ถ้าเป็นผมเป็นเอกชนจะต้องพัฒนาให้ได้ หานักลงทุนมาลงทุน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาได้ปีนึงซัก 5 ล้านคน คิดดูสิว่า 5 ล้านคน ผมตีเฉลี่ยคนละ 5,000 บาท 25,000 ล้านนะ 25,000 ล้านนะที่จะนำเงินเข้าจังหวัด แล้วนึกภาพออกไหมว่าทางเกษตรตอนนี้ตายสะเด็ดไม่ฟื้น ก็เอาการท่องเที่ยวมาดึงเกษตรเรื่องพืชผักสวนครัวใช่ไหม แล้วเราก็มาปั้นเด็กและชุมชนต่างๆ มาเป็นไกด์พาเที่ยวเป็นคนแนะนำสถานที่อะไรอย่างนี้ คือมันจะมีต่อยอดเยอะมากเลย คือถ้าไม่ใช้อย่างนี้นะเพชรบูรณ์เจ๊ง.




เพชรชัยออนไลน์


 


ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.