ธุรกิจที่พักเขาค้อวุ่นหนัก
หลังคำสั่งคสช. หมดอายุ
วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก
รีสอร์ท ลานกางเต็นท์ โฮมสเตย์ ในอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
วุ่นหนักหลังคำสั่งคสช. 6/2562 หมดอายุลง เมื่อ 18 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เนื่องจากล่าสุดอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือประกาศคำสั่ง
ตามประกาศจังหวัดเพชรบูรณ์ ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ถึงนายกเทศมนตรีตำบลแคมป์สน
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง กำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน
เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานที่พักโรงแรม จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 6/2562 เรื่องมาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานประกอบธุรกิจโรงแรม
โดยให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่พักที่มีลักษณะประกอบธุรกิจโรงแรม
ให้หยุดประกอบธุรกิจโรงแรม ตั้งแต่วัน 19 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายดังกล่าว โดยเฉพาะใน 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ จำนวน 457 แห่ง ประกอบด้วย ตำบลหนองแม่นา
ตำบลเขาค้อ ตำบลริมสีม่วง และ ตำบลสะเดาะพง ต้องปิดการให้บริการทันที
ซึ่งก่อนหน้านี้จังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีการสำรวจแล้วเปิดผู้ประกอบธุรกิจที่พักฯ
ให้ยื่นขอขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรมไว้ต่อนายทะเบียน
แต่ก็ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เนื่องจากปัญหาเรื่องที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ
ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างไรก็ตามปัญหาการประกอบธุรกิจดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ได้รับการยกเว้นโทษความผิดตามกฎหมาย จากคำสั่งคสช. 6/2562 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2562
ล่าสุดวันที่ 23 สิงหาคม 2564 อำเภอเขาค้อได้ส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก ให้หยุดกิจการที่พัก โรงแรม
ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.โรงแรมฯ หลังจากนั้นให้องค์การบริหารส่วนตำบล
เทศบาล ในพื้นที่ออกประกาศตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ในขณะที่สภาองค์กรชุมชนฯ
ก็ได้เคลื่อนไหว ยื่นหนังสือฯ ตามภารกิจของสภาฯ (ม.21 พ.ร.บ.สภาฯ 2551) ขอการสนับสนุนอบต.เขาค้อ
เปิดประชุมฯ สรุปปัญหา เรื่องที่ดิน ที่พักโรงแรม ในวันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 เพื่ออุทธรณ์ประกาศคำสั่งดังกล่าว โดยเชิญผู้แทนท้องถิ่น ท้องที่ องค์กรชุมชน สมาคมฯ
และรอส.ในพื้นที่ร่วมประชุมทางไกล (ZOOM) เพื่อปรึกษาหารือ กำหนดท่าที ในการเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน
ขณะเดียวกันปัญหาได้ลุกลามบานปลาย ไม่เพียงธุรกิจหยุดชะงัก
ประชาชนในพื้นที่ต่างได้รับความเดือดร้อน ในการประกอบอาชีพทางด้านนการเกษตร
เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขุดสระน้ำ เรื่องการขอขยายเขตไฟฟ้า
การปลูกต้นไม้ในพื้นที่ ต้องได้รับการอนุญาตจากป่าไม้ก่อนหากไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่สามารถดำเนินการได้
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เองทั้งหมดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
เพราะตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นมา
ไม่สามารถนำเงินงบประมาณออกมาใช้เพื่อการพัฒนาอื่นใดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง
สะพาน น้ำประปา ไฟฟ้า ฯลฯ เนื่องจากว่าติดปัญหาเรื่องที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ที่รอการแก้ไขจากภาครัฐ งบประมาณจึงตกเป็นงบสะสมไปทั้งหมด
ธุรกิจท่องเที่ยวพังพาบ และจากการประชุมคณะกรรมการ กรอ.พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ล่าสุดเห็นชอบที่จะให้อำเภอเขาค้อ
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของกลุ่ม กรอ.ภาคเหนือตอนล่าง
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมองไม่เห็นทิศทางว่าอนาคตธุรกิจการท่องเที่ยวของอำเภอเขาค้อตลอดจนความเป็นอยู่ของประชาชนจะเป็นอย่างไร
รายงานข่าวยังแจ้งด้วยว่า ประชาชนในพื้นที่ยังได้มีการตั้งข้อสังเกต
ติดตามแนวทางถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินของอำเภอเขาค้อ ในห้วงที่ผ่านมาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนภาครัฐไม่ให้ความสนใจ ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไข
ทั้งที่ได้มีการเรียกร้องกำหนดกรอบแนวทางชัดเจนในการพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินของอำเภอเขาค้อไว้แล้ว
ที่สำคัญตรงกันข้ามล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้กรมป่าไม้ กลับมีหนังสือแจ้งให้หน่วยงานราชการในพื้นที่อำเภอเขาค้อทุกแห่ง เร่งรัดดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ตามมาตรา 16 ให้ถูกต้องเป็นการด่วน จึงดูเหมือนว่าเป็นการแก้ปัญหา เอาตัวรอดของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว แต่ปล่อยทิ้งปัญหาของประชาชน
จึงมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดประชาชนจึงไม่สามารถดำเนินการตามมาตรา 16 เรื่องขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสวงนฯได้
อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องที่ดินอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ขณะนี้ก็ได้มีการฟ้องต่อศาลปกครองกลางนครสวรรค์แล้ว
พร้อมกับร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน
จนถึงการถวายฎีกาจากประชาชนในพื้นที่อำเภอเขาค้ออีกด้วย
ทั้งนี้อำเภอเขาค้อได้ถูกประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี 2529
ทับที่ทำกินของประชาชน โดยก่อนที่จะประกาศพื้นที่อำเภอเขาค้อให้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ทางกรมป่าไม้ ไม่ได้กันแนวเขตพื้นที่ทำกินของประชาชนออกก่อนประกาศ
ทำให้เกิดปัญหาตามมายากต่อการแก้ไข
ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่อำเภอเขาค้ออยู่ในการดูแลรับผิดชอบจากกองทัพภาคที่ 3 ตลอดเรื่อยมา กระทั่ง 2562 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่กรมป่าไม้ได้รับมอบที่ดินคืนจากกองทัพภาคที่ 3 กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ
จนมีการจับกุมประชาชนในพื้นที่ในข้อหาบุกรุกป่าสงวนนับ 100 ราย ทำให้มีเหตุกระทบกระทั่งกันตลอดเรื่อยมาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ
กับ ประชาชนในพื้นที่ กระทบกับทุกภาคส่วนในอำเภอเขาค้อ
ยิ่งภาครัฐดำเนินแก้ปัญหาล่าช้าลากยาวไปนานเท่าไหร่ผลกระทบก็จะทวีความรุนแรงสร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น.
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น