พิจิตรประสบภัยแล้งกรมฝนหลวง
ยืนยันทำฝนหลวงให้ต่อเนื่อง
พิจิตร-นราพัฒน์ ผช.รมต.เกษตร
ติดตามมุ่งแก้ปัญหาภัยแล้งให้พื้นที่จังหวัดพิจิตรประสานขอฝนหลวงเพิ่มความถี่ในการทำฝนหลวง
ผอ.ศูนย์ฝนหลวงแจงปฏิบัติการต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 63
จนถึงวันนี้ขึ้นบินแล้ว 104 เที่ยวบิน ทำให้มีฝนตกเพียงแค่ 36 วัน
เหตุเจออุปสรรคพื้นที่พิจิตรไม่มีป่าไม้ที่จะสร้างความชุ่มชื้น
บ่อยครั้งที่ขึ้นบินแล้วต้องคว้าน้ำเหลวเหตุเพราะไม่มีกลุ่มเมฆ
เสนอชาวพิจิตรควรเร่งปลูกป่า
วันที่ 12 ก.ย. 2563
ความคืบหน้าจากสถานการณ์ภัยแล้งในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร
ที่เกิดจากฝนทิ้งช่วงทำให้เกษตรกรชาวนาและชาวสวนไม้ผลได้รับความเดือดร้อน
จึงร้องทุกข์ไปยังนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพื่อขอให้ช่วยเหลือประสานขอการทำฝนหลวง ดังนั้นในวันนี้จึงมอบให้ นายวัชรินทร์
แทนจำรัส เลขาส่วนตัวของ นายนราพัฒน์ ผช.รมต.เกษตร ให้ไปประสานกับ นายประสพ พรหมมา
ผอ. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง จ.พิษณุโลก
เพื่อสอบถามความคืบหน้าของการทำฝนหลวง เพื่อให้เกิดฝนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
นายประสพ พรหมมา ผอ. ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง
จ.พิษณุโลก กล่าวว่า รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วย พิจิตร
เพชรบูรณ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน
ในส่วนของจังหวัดพิจิตรเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่ด้วย ยอมรับว่าเมื่อ 2
ปีที่ผ่านมา จังหวัดพิจิตรประสบปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ รวมถึงปีนี้ด้วย
ส่วนการปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง
ที่มีเครื่องบินทำฝนหลวงแค่เพียง 2 ลำ
ได้ขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวงให้เขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563
จนถึงวันนี้ขึ้นบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงไปแล้ว 104 เที่ยวบิน
แต่ทำให้มีฝนตกแค่เพียง 36 วันเท่านั้น เหตุเป็นเพราะในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรไม่มีภูเขา
ไม่มีป่าไม้ จะได้เมฆฝนส่วนใหญ่ก็มาจากจังหวัดค้างเคียงที่มีภูเขาและป่าไม้
ดังนั้นเมื่อขึ้นบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทำแล้วได้ผลดีที่สุดก็คือ
อำเภอดงเจริญ และ อำเภอที่อยู่แนวขอบติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์
ล่าสุดจากสถานการณ์ภัยแล้งและการร้องขอของเกษตรกรชาวพิจิตร
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่างพิษณุโลก รับทราบปัญหา
โดยต่อจากนี้จะเพิ่มความถี่รอบบินทำฝนหลวงให้พื้นที่จังหวัดพิจิตรให้บ่อยครั้งขึ้น
แต่ก็ต้องออกตัวก่อนว่าการทำฝนหลวงมีตัวแปร คือ
ต้องมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต้องมีมากกว่า 60% และมีกลุ่มเมฆฝนด้วย
จึงจะประสบความสำเร็จ แต่ที่ผ่านมาเจอปัญหาในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
กลุ่มเมฆฝนมีน้อย รวมถึงความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศก็มีน้อยด้วยเช่นกัน
ดังนั้นแนวทางคือต้องช่วยกันอนุรักษ์และสร้างผืนป่าเพื่อสร้างความชุมชื้นในอากาศ
ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
และการทำฝนหลวงสามารถทำได้อย่างที่ต้องการอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
เมื่อคืนวานที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่
ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการปฏิบัติการทำฝนหลวง รวมถึงมีร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่าน
จึงทำให้มีฝนตกพอทำให้นาข้าวในหลายพื้นที่รอดพ้นจากวิกฤตต้นข้าวที่ส่อแห้งตายได้อีกด้วย
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น