ป.ป.ช.พิจิตรเร่งงานก่อสร้างงบ
197 ล้านบาทเศษ
งานล่าช้าทำชาวบางมูลนากเดือดร้อน
พิจิตร-ชาวบ้านตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ร้องเรียน
ป.ป.ช.พิจิตร
เหตุโครงการก่อสร้างระบบกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบางมูลนากโครงการรับผิดชอบขงกรมโยธาธิการและผังเมือง
งบ 197 ล้านบาทเศษ 3 พ.ย. 63 จะครบสัญญาผู้รับจ้างเพิ่งทำงานไปได้แค่ 16%
ชาวบ้านกังวลทำงานล่าช้าส่งผลสร้างความเดือดร้อน
วันที่ 21 ส.ค. 2563 นางอรดี ไกรยุทธศักดิ์
ผอ.สนง.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเครือข่าย STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร
และสื่อมวลชนได้ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบางมูลนาก
บริเวณริแม่น้ำน่าน ต.หอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
ซึ่งการก่อสร้างเขื่อนกันแนวตลิ่งพังดังกล่าวเป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมโยธาและผังเมืองใช้งบประมาณในการก่อสร้าง
197,970,000 บาท ความยาวของเขื่อนตลอดแนวตลิ่ง 1,260 เมตร
สัญญาการก่อสร้าง 1,302 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 3 พ.ย. 2563
โครงการฯ มีกรรมการตรวจรับการจ้างจำนวน 9 คน
มีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง 7 คน , โยธาธิการและผังเมืองพิจิตรจำนวน
1 คน และผู้แทนจากเทศบาลตำบลหอไกรจำนวน 1 คน
ซึ่งที่ผ่านมาความล่าช้าผิดปกติกรมโยธาธิการและผังเมืองก็ได้มีหนังสือถึง 8 ฉบับ
ไปเร่งรัดผู้รับจ้างแต่ผู้รับจ้างยืนยันว่าสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามสัญญา
อีกทั้งเนื่องจากสัญญายังไม่หมดจึงไม่สามารถดำเนินการยกเลิกสัญญาได้ดังกล่าว
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือขณะนี้มีบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้างได้รับความเดือดร้อนจากแรงสั่นสะเทือนของการตอกเสาเข็ม
โดย ปปช.พิจิตร ได้สอบถามผู้รับจ้างและตัวแทนของ ทต.หอไกร ได้รับคำตอบว่า
ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายครบทุกหลังคาเรือนแล้ว
ซึ่งผู้รับจ้างจะรับผิดชอบซ่อมแซมบ้านให้ ส่วนเหตุที่ทำงานล่าช้ามาจากหลายปัจจัย
เช่น การเข้าหรือเริ่มทำงานล่าช้า , สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19
ทำให้เกิดปัญหาการจ้างแรงงานและการขนส่งวัสดุ , ผู้รับจ้างขาดสภาพคล่อง , การทำงานอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำน่าน
ซึ่งช่วงนี้ระดับน้ำสูงขึ้นและมีฝนตกทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ซึ่ง ป.ป.ช.พิจิตร
ก็ลงพื้นที่ทุกวันศุกร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563
จนถึงทุกวันนี้ก็ติดตามงานอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งผู้รับจ้างก็ยืนยันว่าเวลาที่เหลือจะเร่งทำงานให้แล้วเสร็จตามสัญญาให้จงได้
ในส่วนของ นางอรดี ไกรยุทธศักดิ์ ผอ.สนง.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร
เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวยังไม่ปรากฏเรื่องการทุจริต แต่ที่ ป.ป.ช.พิจิตร
ต้องลงพื้นที่ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเร่งรัดงานก่อสร้าง
เหตุเพราะโครงการดังกล่าวเป็นงบประมาณของแผ่นดิน
ซึ่งต้องมีฝ่ายราชการเข้ามากำกับดูแลหากงานล่าช้าหรือทำให้รัฐเสียประโยชน์
หรือชาวบ้านเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลโครงการดังกล่าวก็อาจต้องติดร่างแหโดน
ม.157 ไปกับเค้าด้วย ซึ่ง ป.ป.ช.พิจิตร
ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจึงต้องเข้ามาสร้างความรู้ความเข้าใจและช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปให้จงได้มากกว่าที่จะมาจ้องจับผิดหรือเอาโทษกับผู้ใดผู้หนึ่ง
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น