สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแจง
เหตุประกันฯแพงเว่อ
พิจิตร-ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรและคณะกรรมการร่วมกันชี้แจงเหตุกลุ่มครูชูป้ายร้อง
ส.ส.พิจิตร อ้างเหตุ
การซื้อประกันชีวิตเป็นหลักประกันเงินกู้ว่าทำไมแพงจัง
อีกทั้งวิธีดำเนินการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ประธานสหกรณ์ฯเปิดใจถึงเหตุผลยืนยันดำเนินการโปร่งใสพร้อมให้ตรวจสอบ
วันที่ 7 ก.ค. 2563 นายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร
ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรกลุ่มหนึ่งไปชูป้ายร้องทุกข์กับ
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายพรชัย
อินทร์สุข สส.พปชร.พิจิตร เขต 1 โดยมีข้อความที่ร้องทุกข์ว่า สหกรณ์คราวแรกให้ซื้อประกันเพื่อเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ครั้งแรกให้จ่ายเบี้ยประกัน 26,775 บาท แล้วต่อมาสั่งเปลี่ยนให้จ่าย 69,750 บาท แพงเพิ่มขึ้น 42,975 บาท นั้น สหกรณ์ฯ ขอชี้แจงว่ากรณี
ดังกล่าวเป็นความจริงโดยการพิจารณาจากบริษัทที่เข้าเสนอราคา 9 บริษัท แต่มีบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด
(มหาชน) ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสหกรณ์ที่กำหนดทุกประการ
ต่อมาได้มีสมาชิกส่วนหนึ่งได้มีการทักท้วง โดยการลงสื่อโซเชียล
ว่าเบี้ยประกันสูงเกินไป
สหกรณ์จึงได้เชิญคณะกรรมการประชุมเพื่อทบทวนมติเรื่องดังกล่าว โดยมีมติให้ยกเลิกการทำประกันกับบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย
(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เนื่องจากยังไม่ได้ลงนามใน MOU และนำข้อมูลเสนอของบริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) มาพิจารณาใหม่
ซึ่งเป็นการนำเสนอประกันอุบัติเหตุ แต่มีเงื่อนไขขยายความคุ้มครองค่าจัดการงานศพ 100% ของทุนเงินทำประกัน ซึ่งมีเบี้ยประกัน 595 บาท /100,000บาท / ปี เบี้ยประกัน 3 ปี อยู่ที่ 26,775 บาท / คน แต่อย่างไรก็ตาม
เพื่อความไม่ประมาทสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร จำกัด จึงได้ทำหนังสือหารือไปที่
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.จังหวัดพิจิตร)
และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.กลาง)
เกี่ยวกับเงื่อนไขการขยายความคุ้มครอง
จากนั้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.กลาง) ได้ให้ความเห็นชอบในแบบประกันดังกล่าวหรือไม่
ระหว่างที่รอหนังสือตอบข้อหารือ จาก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.กลาง)
สหกรณ์ได้ทำ MOU กับบริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 และต่อมา เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.กลาง) ได้มีหนังสือตอบข้อหารือมายังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร จำกัด
ว่าแบบประกันที่บริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)
นำเสนอไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามที่
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.กลาง)
ได้ให้ความเห็นชอบไว้ จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการมีมติ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ได้ยกเลิกการจัดทำประกันกับบริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) และเนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด
กรรมธรรม์ของบริษัทเดิมจะหมดความคุ้มครอง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 คณะกรรมการเกรงว่าจะเกิดความเสียหายต่อสมาชิกและสหกรณ์ฯถ้าหาบริษัทมารองรับในการทำประกันต่อเนื่องไม่ได้
หากสมาชิกเสียชีวิตจะทำให้สมาชิกเสียประโยชน์ครอบครัวและผู้ค้ำประกันจะเดือดร้อนและสหกรณ์จะเกิดความเสียหาย
จึงได้จัดหาบริษัทประกันมารองรับให้ทันกำหนดเวลา
โดยการสื่อสารติดต่อกับบริษัทต่างๆ โดยจัดทำหนังสือและเจ้าหน้าที่ประสานงาน
ให้มาดำเนินการเสนอราคา ในวันที่ 20 มิถุนายน 2563 เวลา 13.00 น. ซึ่งมีบริษัทมานำเสนอ 4 บริษัท
แต่ก็มีเพียงบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เท่านั้น ที่รับเงื่อนไขของสหกรณ์ได้จึง
ที่ประชุมคณะกรรมการจึงมีมติให้จัดทำประกันต่อเนื่องระยะเวลาคุ้มครอง 3 ปี กับบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดดังนี้ อายุ 20 ปี -55 ปี เบี้ยประกัน 950 บาท/100,000 บาท/ปีทุนประกัน 3,000,000 บาท (เบี้ยประกัน 3 ปี 42,750 บาท /คน) อายุ 55 ปี 1 วัน -75 ปี เบี้ยประกัน 1,550 บาท/100,000 บาท/ปีทุนประกัน 3,000,000 บาท (เบี้ยประกัน 3 ปี 69,750 บาท/คน) อายุ 75 ปี 1 วัน -80 ปี เบี้ยประกัน 1,550 บาท/100,000 บาท/ปีทุนประกัน 800,000 บาท (เบี้ยประกัน 3 ปี 37,200 บาท/คน) และบริษัทได้คุ้มครองชั่วคราว ( Cover Note ) แล้วตั้งแต่ วันที่ 21 มิถุนายน 2563 หากบริษัทไม่ได้รับเงินหรือแจ้งการเปลี่ยนแปลงใดๆภายใน วันที่ 21 กรกฎาคม 2563 จะหมดความคุ้มครองชั่วคราวตามกรมธรรม์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า...สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นเรื่องบานปลายเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างมีเหตุผลและมีการร้องเรียนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบ
และมีคำบอกเล่าจากคณะกรรมการสหกรณ์ว่าในวันที่ 10ก.ค. 2563 จะเชิญตัวแทนฝ่ายที่ร้องทุกข์ร้องเรียนและจะเชิญอัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิ
- สหกรณ์จังหวัดพิจิตร - คปภ.จังหวัดพิจิตร
มาร่วมกันเป็นกรรมการกลางเพื่อพิจารณาว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวต่อไป
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น