เสนอ 5 ประเด็นแก้ที่ดินเขาค้อ
ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
เพชรบูรณ์- คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดินในพื้นที่และการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน
สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์
เพื่อรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่
จ.เพชรบูรณ์ผู้แทนเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนอำเภอเขาค้อ
เสนอแนะแนวทาง 5 ประเด็นแก้ปัญหาฯ
สืบเนื่องจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว
สืบเนื่องจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เวลา 9.30
น. ณ ห้องประชุมเมืองราด ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ อาคาร 2 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดินในพื้นที่และการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน
สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก รอง
ประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 8 พร้อมด้วย นางสาว พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์
ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯและคณะลงพื้นที่
จ.เพชรบูรณ์
เพื่อรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่
จ.เพชรบูรณ์ โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงานและตัวแทนประชาชนกลุ่มองค์กรต่างๆร่วมประชุมให้ข้อมูลจำนวนมาก
ซึ่งที่ประชุมได้หยิบยกปัญหาเรื่องที่ดินหลากหลายปัญหา ทั้งที่ป่าไม้
ป่าสงวนแห่งชาติ ที่สาธารณะประโยชน์ ที่ดินราชพัสดุ ฯลฯ
ตลอดจนปัญหาผลกระทบและอุปสรรคต่างๆที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ เช่นที่อำเภอเขาค้อ ภูทับเบิก อำเภอน้ำหนาว อำเภอชนแดน อำเภอเมือง
ไม่ว่าจะเป็น ตำบลสะเดียง ตำบลชอนไพร ตำบลป่าเลา และ ตำบลนาป่า
รวมถึงปัญหาการทับซ้อนระหว่างที่ดินของประชาชนกับเขตปาชุมชนที่ดินสาธารณประโยชน์ และที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าจังหวัดเพชรบูรณ์
มีพื้นที่สงวนหวงห้ามของทางราชการออกไว้เป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้นายปรีชา เดชบุญ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลสะเดาะพงผู้แทน
เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนอำเภอเขาค้อ ได้นำเสนอประเด็นปัญหา พร้อม
ข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาที่ดินอำเภอเขาค้อในภาพรวมต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯสภาผู้แทนราษฎร์
รวม 5 ประเด็น
1. สภาองค์กรชุมชนตำบลฯ เป็นผู้แทนตามกฎหมาย (พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน 2551
ได้ทำการประชุม/ทำประชาคม เพื่อแสดงเจตนาว่าเมื่อรู้ว่าอยู่ในพื้นที่ที่ผิดกฎหมายฯ
แล้วไม่ได้เพิกเฉย/ยื่นขอใช้พื้นที่ตามมาตรา 16 (พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ 2507) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่ 2 มิ.ย.2558 โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีหนังสือตอบว่ายังอยู่ในการดำเนินการ
โดยก่อนที่กองทัพภาค 3 ส่งมอบคืนพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้ (29 มิ.ย.62) ได้มีการจับกุมดำเนินคดีราษฎร์ในพื้นที่ 4 ตำบล ในคดีบุกรุกป่าสงวนฯ จำนวน 225 ความผิดในคดีพ.ร.บ.โรงแรมฯ 46 คดี
2. ไม่มีการประสานการทำงานในระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันเอง ทั้งในระดับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,กระทรวงมหาดไทย,กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงเกษตรฯ ในนโยบายลงมาในระดับกรมกองที่ รับผิดชอบ เช่น กรมป่าไม้/ชุดพยัคฆ์ไพร ในการใช้ข้อมูล/กฎหมายเก่ามาปฏิบัติงาน
จึงเกิดการผิดพลาดไม่สอดคล้องกับยุทธ์ศาสตร์ชาติที่วางแนวทางไว้ (มติค.ร.ม.26 พ.ย.2561 และพ.ร.บ.คทช.2562 )
3. ถึงแม้จะมี พ.ร.บ.นโยบายการจัดที่ดิน ( คทช.) พ.ศ.2562 , มติค.ร.ม.26 พ.ย.2562 ฯลฯ ออกมาบังคับใช้แล้ว กฎหมายหรือระเบียบฯต่าง ๆ
ยังไม่เหมาะสมกับบริบทของผู้ที่อยู่อาศัยเดิม โดยเฉพาะคุณสมบัติ 9 ข้อของผู้มี สิทธิในโครงการฯ คทช.
(เช่นจะต้องเป็นผู้ยากไร้/ตามคำสั่ง คสช.64,66/57 ซึ่งได้ยกเลิกไปแล้วโดยคำสั่ง
คสช.9/62 หรือต้องมี รายได้ไม่เกินเดือนละ 2,917 บาท เป็นต้น
ซึ่งไม่มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว)
4. จากข้อมูลการสำรวจพื้นที่ในการจัดที่ดิน
คทช.พบว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อและเขตห้ามล่าสัตว์เขาค้อ
ทับซ้อนกับที่ทำกินของราษฎร์ 147 ราย เนื้อที่ประมาณ 1,634 ไร่ ซึ่งทั้งอำเภอเขาค้อ และเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนฯ
ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 แล้ว ยังไม่มีการตรวจสอบฯ เพื่อให้เป็นไปตามพ.ร.บ.อุทยานฯ
/ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองฯ พ.ศ.2562 ซึ่งจะต้องตรวจให้แล้วเสร็จภายใน 240 วันนับแต่
พ.ร.บ.ฯมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะครบกำหนดในกลางเดือน ก.ค.2563(ได้มีหนังสือตอบจาก
สนง.พื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ว่าได้ตรวจสอบแล้ว ข้อเท็จจริงราษฎร์ร้องเรียนว่ายังมิได้
มีการตรวจสอบแนวเขตจริงร่วมกัน
เพียงแต่ให้ผู้ใหญ่บ้านลงนามว่าในพื้นที่ได้ทำประชาคมรับรองแล้ว
5. เกิดผลกระทบในเรื่องการพัฒนาในพื้นที่ เช่น โครงการบ้านมั่นคงชนบท
(พอช./กระทรวง พม.) ทำให้ราษฎร์ขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การสร้างถนน,ขุดบ่อ,เจาะบ่อน้ำทำการเกษตร,สร้างบ้าน,ขอใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ในพื้นที่ ทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการและราษฎร อย่างไรก็ดีปัญหา 5 ข้อ
เรื่องที่ดินของอำเภอเขาค้อที่ตัวแทนภาคประชาชนได้นำเสนอในครั้งนี้ก็ยังได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางต่างๆอย่างชัดเจนต่อคณะกรรมาธิการฯอีกด้วย
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น