ตรวจยึดพื้นที่ป่าอำเภอเขาค้อกว่า 400 ไร่
เพชรบูรณ์-ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.บูรณาการ่วมหลายหน่วยงาน
เขาตรวจยึดพื้นที่ป่าเขาค้อกว่า 400 ไร่สอบสวนพบพื้นที่ดังกล่าวเป็นของนักเมืองและเสี่ยเจ้าของร้านขายทอง
เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าหลังบ้านมุกโตเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ท้องที่ หมู่ที่ 3 ตำบลหนองแม่นา
วันที่ 30 เม.ย.63 เวลา 10.00 น. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4
กอ.รมน.ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม กอ.รมน.จังหวัด
พ.ช.ได้บูรณาการร่วมจากหลายหน่วยงาน นำโดยนายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอเขาค้อ
ร่วมประชุมวางแผน เข้าตรวจสอบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมภู ของนายทุนรายใหญ่ บริเวณ หมู่ 3 บ้านมุกโต ต.หนองแม่นา
อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ณ ห้องประชุม ศอป.โครงการลุ่มน้ำเข็ก สี่แยกรื่นฤดี
ภายหลังการประชุมคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
พบการบุกรุกและครอบครองพื้นที่ป่าจำนวน 2 แปลงรวม กว่า 400ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณป่าหลังบ้านมุกโต หมู่ที่ 3 ต.หนองแม่นา
อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ซึ่งติดต่อกับพื้นที่ป่าชุมชน
โดยพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไถพรวนเพื่อปลูกขิง บางส่วนปลูกสับปะรด
บางส่วนมีการไถพรวนแต่ยังไม่ได้ปลูก และบางส่วนมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม
และพบราษฎรหลายคนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน
และจาการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวยังพบต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่ล้มอยู่ 1 ต้น
และมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลือเพียง 12 ต้น พบมีการเจาะ สุมไฟโคนต้นทุกต้น
เพื่อเอาน้ำมันยาง และเพื่อให้ยืนต้นตาย ก่อนโค่นออก
เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินได้เต็มที่ คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึด
จากแนวทางสืบสวนพบว่าพื้นที่ทั้ง 2 แปลง
เป็นของนายทุนที่เป็นนักการเมือง และ เสี่ยเจ้าของร้านขายทองในเมืองเพชรบูรณ์
พื้นที่รวม 436 - 1 - 32 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐในเบื้องต้นเป็นเงิน รวม 29,777,000บาท โดย แปลงที่ 1 พื้นที่ 311 - 1 - 32 ไร่
เป็นของนายทุนนักการเมือง จ.เพชรบูรณ์ เข้ามากว๊านซื้อที่ดินจากชาวบ้านประมาณ 7-8
ปีที่แล้ว โดยพบมีการฝังเสาคอนกรีต แสดงแนวเขต เพื่อปลูกต้นพริกไทย แต่ไม่ได้ผล
ปัจจุบันให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และสับปะรด
เมื่อตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41
พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้แล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ
ครม.ดังกล่าว และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง จึงทำการตรวจยึด คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน
จำนวน 21,246,473 บาท ส่วน แปลงที่ 2 พื้นที่ 125 - 0 – 00 ไร่ เป็นของนายทุนเสี่ยร้านขายทองชื่อดัง ในเมืองเพชรบูรณ์
มีคนดูแลอยู่ใน บ้านมุกโตปัจจุบันได้ให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และข้าวไร่
เช่นเดียวกัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30
มิ.ย.41 ก็พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้ ประมาณ 6-7 ปี แล้ว
ซึ่งก็ไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ ครม.ดังกล่าวเช่นกัน
และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง โดยในพื้นที่นายทุนรายนี้มีต้นยางนาขนาดใหญ่ 12
ต้น มีการทำลายโดยการเจาะ และสุมไฟเผาโคนต้นไม้ทุกต้นด้วย จึงได้ตรวจยึด
คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็น 8,530,527 บาท การยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุนทั้ง 2 ราย
เป็นกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ
เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้ นายสมชาย ฉิมแย้ม เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร)
เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้นายยงยุทธ คำติง พนักงานพิทักษ์ป่า ส.3
หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) เป็นพยาน ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก
เป็นคดีรายใหญ่ที่มีพื้นที่ที่ตรวจยึดเกิน 100 ไร่ทั้ง 2 คดี จึงเข้าหลักเกณฑ์ที่ดี เอส ไอ (DSI) จะรับเป็นคดีพิเศษได้ จึงได้ประสานไปยังศูนย์ปฎิบัตืการคดีพิเศษภาค
6 กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับพร้อมจะรับเป็นคดีพิเศษแล้ว
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น