เมืองชาละวันผวาโควิด19ใช้มาตรการเข้ม
กับชาวพิจิตรที่กลับจากภูเก็ต
พิจิตร-พิจิตรพื้นที่สีขาวปลอดโรคระบาดไวรัสโควิด19
ถึงวันนี้ต้องผวาเมื่อมีแขกคนบ้านเดียวกันจากทั่วสารทิศมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาดทำให้
กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-อสม.
บุคลากรทางการแพทย์และฝ่ายปกครองต้องใช้มาตรการเข้มข้นกักตัว 14วัน ทุกกรณี
ต้องขอร้องคิดถึงญาติพี่น้องรักกันจริงวันเวลานี้ยังไม่ต้องมาหากันเป็นการดีที่สุด
วันที่ 2 พ.ค. 2563
นพ.วิศิษฐ์ อภิสิทธิ์วิทยา รอง นพ.สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร,นายณุชิน สุขเกษ สาธารณสุขอำเภอตะพานหิน,นายชนม์วิศิษฎ์ ใจโลกา ( ป.ธี ) ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอตะพานหิน
ร่วมกันลงพื้นที่หลังจากได้รับรายงานจาก นายสุชาติ เงางาม กำนันตำบลงิ้วราย และ นายธวัชชัย ราชประสิทธิ์ ผอ.รพ.สต.งิ้วราย แจ้งว่ามีชาวบ้านที่เป็นชาว ต.งิ้วราย อ.ตะพานหิน
จ.พิจิตร ซึ่งไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของโคไวรัสโควิด 19
แจ้งมาว่าอยู่ที่ภูเก็ตตกงานมา 3 เดือนแล้ว
อยากจะกลับบ้านและจะเดินทางมาถึงในเย็นวันนี้ ซึ่ง นายสมศักดิ์ ( นามสมมุติ )
ได้โทรรายงานทุกระยะที่เข้าเขต อ.ตะพานหิน
เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไปรอรับที่หน้าบ้าน โดยนายสมศักดิ์ (
นามสมมุติ ) และภรรยารวมทั้งลูกชายรวมเป็น 3 คน
เดินทางด้วยรถส่วนตัวเมื่อมาถึงบ้านที่บริเวณ หมู่ 5 บ้านน้ำโจนใต้ ต.งิ้วราย
อ.ตะพานหิน ทันทีที่มาถึง อสม. ก็ทำการตรวจวัดไข้ ซึ่งพบว่ามีอุณหภูมิของร่างกายทั้ง
3 คน พ่อ แม่ ลูก เป็นปกติไม่มีไข้ จากนั้นจึงทำการสอบสวนได้ความว่า นายสมศักดิ์ (
นามสมุติ ) และภรรยาไปทำงานเป็นกุ๊ก และ ผู้ช่วยกุ๊ก อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ริมชายทะเลที่หน้าหาดกมลา ต.กมลา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ
ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกัน แต่ก่อนจะกลับมาที่จ.พิจิตร ก็ได้กักบริเวณตัวเอง 14 วัน
โดยมี อสม.ของ ต.กมลา ดูแลอย่างใกล้ชิดมาแล้วในระดับหนึ่ง
จึงมั่นใจว่าตนเองปลอดภัยจากไวรัสโควิด19 จึงตัดสินใจขอเดินทางกลับบ้านเกิดที่
จ.พิจิตร เมื่อ จ.ภูเก็ต เปิดเมืองให้เดินทางข้ามจังหวัดได้
ในส่วนของ นพ.วิศิษฐ์ อภิสิทธิ์วิทยา
รอง นพ.สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
กล่าวว่าจังหวัดพิจิตรจนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยจากโรคไวรัสโควิด
19
ดังนั้นครอบครัวนี้เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดของโรคไวรัสโควิด
19 ดังนั้นจึงต้องใช้มาตรการดูแลตามหลักวิชาการ ตามหลักการแพทย์
โดยจะต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน
เช่นเดียวกับในส่วนของ นายชนม์วิศิษฎ์ ใจโลกา ( ป.ธี ) ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอตะพานหิน กล่าวว่า กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-
อสม. ขณะนี้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ใครเข้า-ออก หมู่บ้าน
ที่เป็นคนแปลกหน้าหรือเป็นคนท้องถิ่นกลับมาจากต่างจังหวัดก็ไม่รอดสายตา อสม. หรือ
ชาวบ้าน ที่ช่วยเป็นหูเป็นตา ก็จะรายงานให้ทราบทุกระยะ
เช่นเดียวกับเคสนี้ก็สั่งให้กักตัว 14 วัน
ซึ่งคงต้องส่งไปยังสถานที่กักตัวที่ผู้ว่าฯพิจิตร และ สสจ.พิจิตร กำหนดไว้อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
จังหวัดพิจิตรได้ประสานข้อมูลกับฝ่ายปกครองของจังหวัดภูเก็ตพบว่ามีชาว
จ.พิจิตรที่ไปทำงานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ลงทะเบียนขอออกนอกพื้นที่เพื่อกลับมาบ้านที่
จ.พิจิตร จำนวน 59 ราย เบื้องต้นเป็นชาว ต.คลองคูณ ต.ทับหมัน ต.วังสำโรง
อ.ตะพานหิน,ต.วังกรด ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก ,ต.บึงนาราง ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง,ต.ทุ่งน้อย อ.โพทะเล,ต.โพธิ์ประทับช้าง ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง,ต.คลองคะเชนทร์ ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร,ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี,ต.รังนก ต.สามง่าม ต.หนองโสน อ.สามง่าม แต่ปรากฏว่าครอบครัวของ นายสมศักดิ์ (
นามสมมุติ ) พ่อ แม่ ลูก 3 คนนี้ กลับไม่มีรายชื่อว่าเป็นผู้ลงทะเบียนที่ จ.ภูเก็ตว่า
ขอกลับภูมิลำเนา ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่ายังมีบุคคลเช่นนี้อีก
จึงต้องเฝ้าระวังและคุมเข้ม
นอกจากนี้ฝ่ายปกครองของ จ.พิจิตร
ยังได้รายงานว่าตลอดทั้งวันนี้มีบุคคลที่มาจาก 10
จังหวัดพื้นที่แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 และจังหวัดอื่นๆ รวมแล้ว 482 คน
ที่เข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งในเขต อ.เมืองพิจิตรก็มีแรงงานต่างด้าว
สัญชาติเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว จำนวน 55 ราย ที่เข้ามาในพื้นที่อีกด้วย
ดังนั้นจึงทำให้วันนี้ จ.พิจิตร
ต้องลุ้นระทึกและใช้มาตรการที่เข้มข้นกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19
อีกด้วย
สิทธิพจน์ พิจตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น