ไวยาวัจกรวัดหลวงพ่อเงินโร่แจ้งความ
หลังตรวจบัญชีพบเงินหายอีก
113 ล้าน
พิจิตร-ยังวุ่นไม่เลิก!ไวยาวัจกรวัดหลวงพ่อเงินบางคลานขึ้นโรงพักแจ้งความตรวจสอบบัญชีพบเงินวัดหายไป113
ล้าน
ลับ ลวง พราง ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องในวัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ล่าสุด รักษาการเจ้าอาวาสมอบอำนาจให้ไวยาวัจกร
หอบหลักฐานขึ้นโรงพัก สภ.โพทะเล แจ้งความเงินหายไปจากบัญชี 113 ล้านบาท
วันที่ 1 พ.ค. 2563 นายพร ปั้นเพ็ง
อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร
ซึ่งเป็นไวยาวัจกรได้รับมอบอำนาจจากพระครูพิสุทธิวรากร
รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน
ให้มาดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.โพทะเล โดยมี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพทะเล และ ร.ต.อ.วีระศักดิ์ จันทร์สม รรท.รอง สว. (
สอบสวน ) สภ.โพทะเล เป็นร้อยเวรรับแจ้งความ โดยที่ นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกร ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
ว่าเหตุที่ต้องมาแจ้งความในครั้งนี้เนื่องจาก หลังจากที่พระครูพิสุทธิวรากร
ได้เข้ารับมอบหน้าที่รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดหิรัญญาราม หรือ
หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน
ก็ได้ทำการตรวจสอบบัญชีซึ่งได้รับการส่งมอบการเงินทรัพย์สินและบัญชีบางส่วนมาจากอดีตเจ้าอาวาส
ซึ่งหลังจากได้รับบัญชีของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานมาในครั้งแรกนั้น
ก็ได้ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาทำการตรวจสอบบัญชีและเมื่อคณะทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าดำเนินการตรวจสอบดูแล้วเห็นว่า
บัญชีการเงินของวัดหลวงพ่อเงิน มีเป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
จึงได้แนะนำให้รักษาการเจ้าอาวาสและทางคณะกรรมการของวัดว่าควรไปจ้างผู้ตรวจสอบบัญชี
เอกชนที่ได้รับอนุญาต มาทำการตรวจสอบบัญชีจะดีกว่า
ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสและคณะกรรมของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำ
เมื่อทำการตรวจสอบมาระยะหนึ่งก็พบว่าเงินในบัญชี มีไม่ครบ มันหายไป
มันถูกเบิกไปในหลายประเด็นในหลายประการ ซึ่งมียอดเงินที่สูญหายไป ประมาณ 100
กว่าล้านบาทเศษ
อีกทั้งก่อนหน้านี้โดยครั้งแรกก็ได้มีการแจ้งความไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องเงินในพิธีพุทธาภิเษก
ปี 2555 เป็นเงิน 44 ล้าน
ที่ได้หายไปจากบัญชีจนมาถึงครั้งนี้ตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมจึงได้พบว่ามีเงินหายไปจากบัญชีอีก
113 ล้านบาท
ซึ่งถ้ารวมทั้งของเก่าและของใหม่นี้ก็จะพบว่าเงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานได้หายออกจากบัญชีไปกว่า
150 ล้านบาทแล้ว สำหรับการเข้าแจ้งความในครั้งนี้
นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกร
กล่าวเพิ่มเติมว่า
ตนเองไม่ได้ชี้ว่าใครคือผู้ที่กระทำผิดหรือกล่าวหาใครว่าเป็นผู้ต้องหาแต่การเข้าแจ้งความครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.โพทะเล เป็นผู้ค้นหาความจริงและจะได้สืบเสาะหาผู้ที่กระทำความผิดหรือยักยอกเงินของวัด
หิรัญญารามหรือวัดหลวงพ่อเงินมาดำเนินคดีต่อไป
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น