Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

พิจิตร-ให้กักตัว 64 นศ. 
ถามจะอยู่ต่อที่วิทยาลัยฯหรือจะขอกลับบ้าน



ผู้ว่าฯ-นายกเหล่ากาชาด พร้อมด้วย สสจ.พิจิตร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการใช้มาตรการตาม พรก..ฉุกเฉิน โควิด19 ที่ใช้การกักกันตัว 64 นักศึกษา ของ ว.ชุมชนพิจิตร ทั้ง 2 แห่ง ที่ไปฝึกงานพื้นที่แพร่ระบาดแล้วถูกส่งตัวกลับโดยใช้ที่ วิทยาลัยฯ เป็นสถานที่กักกันตัวนอนผ่าน 3 คืนไม่พบผู้ป่วยหรือผู้มีไข้  มาตรการผ่อนคลาย ถามความสมัครใจจะอยู่ต่อหรือจะขอกลับไปดูแลรับผิดชอบต่อสังคมกักตัวอยู่ที่บ้าน สรุปมีทั้งอยู่ต่อและขอกลับบ้านท่ามกลางกระแสต่างๆนาๆ
วันที่ 6 เม.ย. 2563  นายสิริรัฐ ชุมอุปการ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางสุกัญญา ชุมอุปการ  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร , นายแพทย์ธีระพงษ์ แก้วภมร  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร , นายสุเทพ วงษ์พานิช  รองผู้ว่าฯพิจิตร , นายณรงค์ศักดิ์  หอมมาลัย ปลัดจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันเดินทางไปที่วิทยาลัยชุมชนพิจิตร หน่วยจัดการศึกษาทับคล้อ ซึ่งเป็นสถานที่ใช้กักกันตัวนักศึกษาที่ไปฝึกงานที่จังหวัดชลบุรี  ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19 แล้วทางโรงงานส่งตัวกลับมา โดยมี นายวิศิษฐ์ เบญจพิทักษ์กุล นายอำเภอทับคล้อ และ นายวิชัย ชวนรักษาสัตย์ ผอ.วิทยาลัยชุมชนพิจิตร ซึ่งเป็นผู้บริหาร วิทยาลัยชุมชนพิจิตร ที่ อ.โพทะเล และที่ อ.ทับคล้อ  ได้ให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลว่า นักศึกษาจำนวน 64 คน เป็น นักศึกษาระดับ ปวช.-ปวส. ซึ่งไปฝึกงานที่ บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด  ตั้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี  ซึ่งขณะนี้เป็นพื้นที่เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด 19 



ดังนั้นทางโรงงานจึงส่งตัวกลับมายัง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2563 ลงที่ วิทยาลัยชุมชนทับคล้อ 36 คน เป็นชาย 24 คน  เป็นหญิง 12 คน และไปลงที่ วิทยาลัยชุมชนโพทะเล 28 คน เป็นนักศึกษาชาย 9 คน  นักศึกษาหญิง 9 คน โดยให้ใช้ห้องประชุมและอาคารเรียนติดแอร์ให้เป็นที่กักกันตัวโดยมีสาธารรณสุขอำเภอทับคล้อ – โพทะเล ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด  ส่วนเรื่องอาหารการกิน นายอำเภอทั้ง 2 ท่าน ก็จัดหามาให้กินครรบ 3 มื้อ ปฏิบัติดูแลเสมือนลูกหลาน  แต่ถึงขณะนี้ก็มีผู้ปกครองรวมถึงตัวนักศึกษาบางคนก็อยากกลับบ้าน บางคนก็อยากอยู่ต่อ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน
ล่าสุด นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ,  นายแพทย์ธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร จึงได้ลงมาประชุมชี้แจงซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะให้สมัครใจใครอยากอยู่ต่อที่สถานกักกันตัวภายในวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง ก็ขอให้กรอกแบบฟอร์มแสดงเจตนา ส่วนใครที่จะขอกลับบ้านต้องให้ผู้ปกครองมาลงนามรับรองว่าจะดูแลบุตรหลาน รวมถึงตัวของนักศึกษาเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอายุ 17-19 ปี แล้ว ก็ต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการอยู่บ้านสวมหน้ากากอนามัยแล้วแยกตัวอยู่ห่างจากคนในครอบครัวตามคำแนะนำที่อาจารย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ความรู้ในช่วงที่กักกันตัว  
ผลจากการสอบถามอย่างไม่เป็นทางการก็พบว่านักศึกษาหญิงส่วนใหญ่อยากกลับบ้าน จะมีขออยู่ต่อก็ไม่กี่คน  รวมถึงนักศึกษาชายด้วยเช่นกัน เนื่องจากที่บ้านผู้ปกครองไปทำมาหากินอยู่ต่างจังหวัดแต่คนที่อยากกลับบ้านก็บอกว่าถ้าอยู่แล้วไม่สะดวกก็อาจจะขอกลับมาที่วิทยาลัยอีกครั้ง ซึ่งในช่วงบ่ายและเย็นของวันนี้ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมาดำเนินการเพื่อรับตัวกลับบ้านและไปควบคุมดูแลกันต่อ โดยมี อสม. และ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางกระแสของชาวโซเชียลที่เป็นห่วงกังวลกันไปต่างๆนานา
แต่โดยสรุป นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าฯพิจิตร  , นายแพทย์ธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์ สสจ.พิจิตร ยังกล่าวยืนยันว่า ณ เวลานี้ จังหวัดพิจิตรยังคงรักษาพื้นที่เป็น 1 ใน 11 จังหวัดของประเทศไทย ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยด้วยโรคไวรัสโควิด19 แต่อย่างใด






สิทธิพจน์  พิจิตร



ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.