Facebook

ด๊อกเตอร์อ้อเดินหน้า ผลักดันโครงการ soft power ต่อยอด โครงการรวมพลังบวรสร้างเศรษฐกิจชุมชน ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ทอง ตำบลนาตระกุด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

กำลังร่วมชุด ศปป.ฯ ลุยจับผู้บุกรุกป่าสงวนเขาค้อ
พบสอดไส้นอมินีเข้าโครงการ คทช.อื้อ


เมื่อวันที่ 8 มี.ค.63 เวลา 15.30 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.กอ.รมน.ได้บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ศปป.กอ.รมน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้จนท. ป่าไม้ สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลกจนท. ศอป.ลุ่มน้ำเข็กและจนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.(เขาค้อ) ได้ร่วมกันตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือ คนขับรถแบคโฮ 1คัน และคนขับรถบรรทุกสิบล้อ 2 คัน พร้อมรถของกลาง ขณะกำลังบุกรุกขุดปรับพื้นที่ในเขตป่าสงวนฯ ที่เป็นร่องน้ำบนภูเขา ใกล้อ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่กองทัพภาค 3 ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้แต่ปัจจุบันได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้แล้ว จากการตรวจสอบค่าพิกัดพื้นที่ขุดดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ นอกแปลง รอส.เดิม และเป็นพื้นที่สาธารณะ ท้องที่ หมู่ 1 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2517และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484นำส่ง พงส.สภ.เขาค้อดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 9 มี.ค.63 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.กอ.รมน.ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมพู โดยใช้เครื่องจักรกลหนัก หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวบนเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์



 ได้ผู้ต้องหารวม 3 คน และ ได้ตรวจยึดรถยนต์ ของกลาง รวมคันรถแบคโฮ ยี่ห้อฮิตาชิ สีส้ม จำนวน 1คัน  รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นฟูโซ่ทะเบียน 81-3353เพชรบูรณ์ รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ รุ่น ซูโม่ FM  ทะเบียน 80-7753เพชรบูรณ์  และใน เวลา 16.30 คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ติดกันพบคนงานประมาณ 10 คนกำลังก่อสร้างอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ และพื้นที่สูงขึ้นไปจนติดแปลงปลูกป่าสัก มีการปรับพื้นที่ภูเขาเป็นขั้นบันได เตรียมสร้างรีสอร์ท และลานกางเต้นท์ จากาการสอบถามคนงานให้การว่าเจ้าของที่ดินเป็นของข้าราชการคนหนึ่ง อยู่ที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ในเวลาต่อมาเจ้าของที่ดิน ได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ ให้การว่าซื้อที่ดินมา เมื่อปี 58 จำนวน 3- 2 - 0 ไร่ ราคาไร่ละ 15,000 บาท จากนั้นเมื่อปลายปี 62  ได้ส่งรายชื่อหลานของตนเองเข้าโครงการ คทช.ไปแล้ว จึงเริ่มปรับพื้นที่ และก่อสร้างอาคารเมื่อเดือน ม.ค.63 ที่ผ่านมา โดยจะนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ 9 มี.ค.63 คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว เป็นการซื้อขาย เปลี่ยนมือ ซึ่งตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 ผู้ครอบครองรายเดิมต้องทำกินต่อเนื่อง และตกทอดให้ทายาทได้ แต่ไม่สามารถขายได้ การที่ทายาท รอส.ได้ขายที่ทำกินถือว่าได้สละการครอบครองแล้ว จะอ้างสิทธิทำกินในที่เดิมไม่ได้อีกต่อไป หากใครมาซื้อที่ดิน และบุกรุกยึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์จึงถือว่าเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ ซึ่งเป็นความผิด ฐานบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนฯ คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกัน จัดทำบันทึกตรวจยึดพื้นที่ จำนวน 3 - 1 - 88 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน รวม 236,943,90 บาทนำส่ง พงส.สภ. เขาค้อ เพื่อติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าจากการตรวจสอบที่ดินอำเภอเขาค้อพบว่าขณะนี้ได้มีนายทุนและข้าราชการนำชื่อคนอื่น (นอมินี) แจ้งเข้าโครงการ คทช.ที่ทางจังหวัดเพชรบูรณ์กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินอำเภอเขาค้ออยู่ในขณะนี้



นั้นโครงการ คทช.ของรัฐบาล เป็นโครงการที่ดีในการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ให้มีทีดินทำกิน แต่การนำนโยบายของรัฐมาสู่การปฏิบัติในพื้นที่ อ.เขาค้อ และใน จ.เพชรบูรณ์ จะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล หากมีการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่เป็นคณะกรรมการ คทช.ในพื้นที่ หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการเสนอชื่อ เข้าโครงการ คทช.เช่น การนำชื่อนายทุน เจ้าของรีสอร์ท หรือโรงแรม หรือผู้ที่มาซื้อที่ดินต่อจาก รอส. หรือผู้ที่ทำผิดกฎหมายบุกรุกป่า หรือผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ ยัดไส้เข้าไปในการสำรวจรายชื่อ เพื่อเสนอเข้าโครงการ คทช.ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงานจำนวนมาก บางรายเป็นชาวบ้านผู้ยากไร้ในพื้นที่ได้เสนอรายชื่อเข้าโครงการ คทช.ตามกำหนด แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมรับ หรือมีกรณีนายทุนเสนอชื่อเป็นเจ้าของในแปลงที่ดินของชาวบ้านก่อน เมื่อชาวบ้านไปเสนอชื่อภายหลังผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมรับอ้างว่าซ้ำซ้อน เป็นต้น
 หากมีการนำเสนอรายชื่อสำรวจ เข้าโครงการ คทช.ที่ไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรม บนพื้นที่ อ.เขาค้อ นำเข้ากรรมการจังหวัดเพชรบูรณ์ พิจารณาอนุมัติแล้ว จะเกิดความเสียหายอย่างมากกับโครงการ คทช.และนโยบายของรัฐบาล
ซึ่งจะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ต้องล้มเหลว รวมทั้งเกิดเงื่อนไขในการบังคับใช้กฎหมายคือเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นในสังคม อันมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นควรให้มีการตรวจสอบ คัดกรอง และทบทวนรายชื่อที่สำรวจก่อนนำเสนอ เข้าโครงการ คทช.ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ใหม่ทั้งหมด เพื่อความรอบคอบ พร้อมทั้งเปิดเผยรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ คทช. เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ก่อนที่จะอนุมัติต่อไป.





เพชรชัยออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.