Facebook

จังหวัดเพชรบูรณ์​ ขอเชิญเที่ยวงานอุ้มพระดำน้ำ​ประจำปี​ 2567 ระหว่าง​ วันที่​ 27 ก.ย.​ - 6 ต.ค.​67

เพชรบูรณ์ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น


จากกรณีที่มีข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 25 มกราคม 2563 ผ่านมา ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อคล้ายไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสอู่ฮั่น” ที่ อ.หล่มสัก โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสักนั้น ภายหลังผ่านการซักประวัติทราบว่า เดินทางกลับจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 ทางโรงพยาบาลฯ จึงกักตัวไว้พร้อมดำเนินการตามมาตรฐานสากลของการรักษาและควบคุมโรคติดต่อ โดยมีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.63 นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า ในหลักการแล้วหากผู้ป่วยได้รับเชื้อคล้ายไวรัสอู่ฮั่นน่าจะมีอาการภายใน 7 วัน แต่ข้อเท็จจริงสำหรับผู้ป่ายรายนี้คือมีอาการหลังจากกลับมาที่บ้านเราแล้ว ซึ่งอาการเท่าที่ดูเบื้องต้นในตอนนี้เป็นอาการไข้หวัด ซึ่งในทางการแพทย์ให้มีการเฝ้าระวังทุกราย ฉะนั้นสำหรับผู้ป่วยรายนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงและโดยความเห็นส่วนตัว 95% ขึ้นไปไม่น่าจะใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น แต่ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจทางแล็ปก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันให้ครบถ้วน ตอนนี้จึงจำเป็นต้องกักตัวผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย
คาดว่าคงจะใช้ระยะเวลาราว 3 วัน ตอนนี้อาการผู้ป่วยรายนี้ก็เหมือนเป็นไข้หวัด แต่เนื่องจากเป็นมาตรฐานทางสากล จำเป็นต้องกักตัวไว้ในห้องปลอดเชื้อไว้ก่อน ส่วนอาการที่บ่งชี้ไม่น่าจะติดเชื้อคล้ายไวรัสอู่ฮั่น คือมีอาการเป็นหวัดมาหลายวันแล้ว แมัจะมีไข้แต่ไม่ได้สูงเหมือนผู้ป่วยติดเชื้อโคโรน่าที่จะหนักกว่านี้และยังไม่มีอาการปอดบวม แต่ทั้งนี้ที่ยังพูดไม่ได้เต็มปากเพราะผลแล็ปยังไม่ออกนพ.ชัยวัฒน์กล่าว
ด้านนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า ยังไม่ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพียงแค่เวลานี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานว่าได้ส่งเชื้อไปตรวจว่าจะใช่หรือไม่ ส่วนผู้ป่วยรายนี้เนื่องจากมีประวัติเคยไปจีนและก็ป่วยไม่ได้ร้ายแรงเพียงแค่เป็นหวัดธรรมดา จึงกักตัวไว้เนื่องจากเป็นมาตรฐานสากลของการรักษา ขณะนี้จึงยังไม่ฟันธงเพราะต้องนำเชื้อไปเพาะก่อน แต่ในทางป้องกันก็ต้องมีการกักตัวไว้ก่อนเพราะประวัติเคยไปจีน และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามก็ขออย่าให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก
อย่างไรก็ดี ล่าสุดบนเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ” Natthaseth Soime” ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า “ผมเป็นคนในข่าวจริงครับ ผมต้องขอบอกตรงนี้ว่าผมไม่ได้กินค้างคาวแต่อย่างใด และ ผลตรวจก็ยังไม่ออก ผมกินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และไม่มีสำนักข่าวดังกล่าวได้มาสัมภาษณ์ผมเป็นการส่วนตัวเลย และตอนนี้ได้มีเอกสารข้อมูลของผมได้หลุดออกไปทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก หากใครพบเอกดังกล่าว รบกวนแคปแล้วส่งมาให้หน่อยนะครับ แล้วรบกวนบอกต่อๆกันด้วยนะครับ ปล.ผมอาจจะต้องขออนุญาตแจ้งความด้วยนะครับ” ซึ่งปรากฎว่าเพจต่างๆได้มีการการแจ้งเตือนให้สมาชิกระมัดระวังการแชร์ข่าวเกี่ยวการพบผู้ป่วยคล้ายโรคอู่ฮั่นของสำนักข่าวบางแห่ง
พร้อมกันนี้ ทางโรงพยาบาลหล่มสัก ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลใดๆ ว่ามีผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ในเขตอำเภอหล่มสัก มารับการรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสัก เมื่อวันที่ 25 ม.ค.63 ด้วยอาการไข้ ไอ ปวดศรีษะ มีน้ำมูก และ เนื่องจากช่วงนี้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน ต้องมีการปฏิบัติตาม flow ของการควบคุมโรค คือต้องรับไว้สังเกตอาการในห้องแยก โดยต้องแยกออกจากผู้ป่วยทั่วไป และ ส่งตรวจเชื้อในลำคอทางห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัย  ผลการตรวจทดสอบเบื้องต้นเชื้อในลำคอ  ( แบบRapid ) ของผู้ป่วยรายนี้ผลเป็นลบ ( negative) แต่ต้องส่งตรวจละเอียดเพื่อยืนยันผลอีกทีจาก สคร.เขต 2 ที่พิษณุโลก ชึ่งจะส่งไปได้ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.63 และ จะทราบผลยืนยันประมาณวันพุธที่ 29 ม.ค.63 นี้ โดยก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปประเทศจีนมหานครเซินเจิ้น และ ผู้ป่วยไม่ได้กินค้างคาวอย่างที่มีการเสนอ หรือ เผยแพร่ข่าวแต่ประการใด หากทราบผลตรวจอย่างเป็นทางการ ทางผู้บริหารโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง จึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และขอความกรุณาในการแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้ป่วยด้วย





ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น


Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.