เพชรบูรณ์ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น
จากกรณีที่มีข่าวระบุว่า เมื่อเวลา
20.30 น.วันที่ 25 มกราคม 2563 ผ่านมา ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อคล้ายไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ”ไวรัสอู่ฮั่น” ที่ อ.หล่มสัก โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสักนั้น ภายหลังผ่านการซักประวัติทราบว่า เดินทางกลับจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.63 ทางโรงพยาบาลฯ จึงกักตัวไว้พร้อมดำเนินการตามมาตรฐานสากลของการรักษาและควบคุมโรคติดต่อ
โดยมีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.63
นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า
ในหลักการแล้วหากผู้ป่วยได้รับเชื้อคล้ายไวรัสอู่ฮั่นน่าจะมีอาการภายใน 7 วัน
แต่ข้อเท็จจริงสำหรับผู้ป่ายรายนี้คือมีอาการหลังจากกลับมาที่บ้านเราแล้ว
ซึ่งอาการเท่าที่ดูเบื้องต้นในตอนนี้เป็นอาการไข้หวัด
ซึ่งในทางการแพทย์ให้มีการเฝ้าระวังทุกราย
ฉะนั้นสำหรับผู้ป่วยรายนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงและโดยความเห็นส่วนตัว 95%
ขึ้นไปไม่น่าจะใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น
แต่ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจทางแล็ปก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันให้ครบถ้วน
ตอนนี้จึงจำเป็นต้องกักตัวผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย
คาดว่าคงจะใช้ระยะเวลาราว 3 วัน
ตอนนี้อาการผู้ป่วยรายนี้ก็เหมือนเป็นไข้หวัด แต่เนื่องจากเป็นมาตรฐานทางสากล
จำเป็นต้องกักตัวไว้ในห้องปลอดเชื้อไว้ก่อน
ส่วนอาการที่บ่งชี้ไม่น่าจะติดเชื้อคล้ายไวรัสอู่ฮั่น
คือมีอาการเป็นหวัดมาหลายวันแล้ว
แมัจะมีไข้แต่ไม่ได้สูงเหมือนผู้ป่วยติดเชื้อโคโรน่าที่จะหนักกว่านี้และยังไม่มีอาการปอดบวม
แต่ทั้งนี้ที่ยังพูดไม่ได้เต็มปากเพราะผลแล็ปยังไม่ออก”นพ.ชัยวัฒน์กล่าว
ด้านนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า
ยังไม่ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา
เพียงแค่เวลานี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานว่าได้ส่งเชื้อไปตรวจว่าจะใช่หรือไม่
ส่วนผู้ป่วยรายนี้เนื่องจากมีประวัติเคยไปจีนและก็ป่วยไม่ได้ร้ายแรงเพียงแค่เป็นหวัดธรรมดา
จึงกักตัวไว้เนื่องจากเป็นมาตรฐานสากลของการรักษา
ขณะนี้จึงยังไม่ฟันธงเพราะต้องนำเชื้อไปเพาะก่อน
แต่ในทางป้องกันก็ต้องมีการกักตัวไว้ก่อนเพราะประวัติเคยไปจีน
และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามก็ขออย่าให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก
อย่างไรก็ดี
ล่าสุดบนเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ”
Natthaseth Soime” ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า “ผมเป็นคนในข่าวจริงครับ
ผมต้องขอบอกตรงนี้ว่าผมไม่ได้กินค้างคาวแต่อย่างใด และ ผลตรวจก็ยังไม่ออก
ผมกินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และไม่มีสำนักข่าวดังกล่าวได้มาสัมภาษณ์ผมเป็นการส่วนตัวเลย
และตอนนี้ได้มีเอกสารข้อมูลของผมได้หลุดออกไปทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก
หากใครพบเอกดังกล่าว รบกวนแคปแล้วส่งมาให้หน่อยนะครับ
แล้วรบกวนบอกต่อๆกันด้วยนะครับ ปล.ผมอาจจะต้องขออนุญาตแจ้งความด้วยนะครับ” ซึ่งปรากฎว่าเพจต่างๆได้มีการการแจ้งเตือนให้สมาชิกระมัดระวังการแชร์ข่าวเกี่ยวการพบผู้ป่วยคล้ายโรคอู่ฮั่น”ของสำนักข่าวบางแห่ง
พร้อมกันนี้ ทางโรงพยาบาลหล่มสัก
ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลใดๆ
ว่ามีผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ในเขตอำเภอหล่มสัก มารับการรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสัก
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.63 ด้วยอาการไข้ ไอ ปวดศรีษะ มีน้ำมูก และ
เนื่องจากช่วงนี้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน ต้องมีการปฏิบัติตาม flow ของการควบคุมโรค คือต้องรับไว้สังเกตอาการในห้องแยก
โดยต้องแยกออกจากผู้ป่วยทั่วไป และ ส่งตรวจเชื้อในลำคอทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัย ผลการตรวจทดสอบเบื้องต้นเชื้อในลำคอ ( แบบRapid ) ของผู้ป่วยรายนี้ผลเป็นลบ ( negative) แต่ต้องส่งตรวจละเอียดเพื่อยืนยันผลอีกทีจาก
สคร.เขต 2 ที่พิษณุโลก ชึ่งจะส่งไปได้ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.63 และ
จะทราบผลยืนยันประมาณวันพุธที่ 29 ม.ค.63 นี้ โดยก่อนหน้านี้
ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปประเทศจีนมหานครเซินเจิ้น และ
ผู้ป่วยไม่ได้กินค้างคาวอย่างที่มีการเสนอ หรือ เผยแพร่ข่าวแต่ประการใด
หากทราบผลตรวจอย่างเป็นทางการ
ทางผู้บริหารโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง จึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง
และขอความกรุณาในการแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้ป่วยด้วย
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น