ภัยแล้งจ่อคอหอย !
ผู้ว่าฯพิจิตรสั่งเร่งสำรวจช่วยเหลือราษฎร
พบ1แห่งต้องแจกน้ำกินน้ำใช้
ส่วนใครอยากทำนาปรังต้องพึ่งตนเอง
เจ้าเมืองชาละวันนั่งไม่ติด
ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งดูแหล่งน้ำธรรมชาติ
พบเข้าขั้นจุดวิกฤตจ่อคอหอยแล้ว
เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือ คาด 4-5 เดือน
ต้องเจอภัยร้อน-ภัยแล้ง เป็นห่วงชาวนาและสวนไม้ผล
เน้นย้ำหากชาวนาอยากทำนาปรังต้องมีน้ำสำรองหรือบ่อน้ำบาดาลเป็นของตนเอง
ยืนยันน้ำกินน้ำใช้ไม่ขาดแคลน แต่น้ำเพื่อการเกษตรชลประทานตอบชัดเจนไม่มีสนับสนุน
พื้นที่ 12 อำเภอ พบแล้ว 1 แห่ง
คือในเขตตำบลเขาทรายที่ขอรับการช่วยเหลือต้องแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค
วันที่ 7 มกราคม 2563 นายสิริรัฐ
ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร ถึง
สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายอำเภอของจังหวัดพิจิตร
ขณะนี้ที่ส่อเค้าว่าจะรุนแรง หลังจากพบว่าแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง
บึง ในพื้นที่ ที่อยู่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วย
อำเภอสากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ และ อำเภอดงเจริญ รวมทั้งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม 4
อำเภอ คืออำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล
โดยปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำดังกล่าวได้ลดระดับลงจนแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือน
พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 10
ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ ระบบน้ำประปาไม่เพียงพอต่อการบริโภคและอุปโภค
แนวทางแก้ไขเทศบาลตำบลเขาทราย นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายถังกลางหมู่บ้านสัปดาห์ละ 1
ครั้ง
อีกทั้งพื้นที่ตำบลบ้านนา
อำเภอวชิรบารมี พื้นที่ทำนาปรัง 6 หมู่บ้านได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้วเช่นกัน
โดยในวันนี้ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมแนวทางการช่วยเหลือ
และเฝ้าระวังพื้นที่ ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง
โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
ได้สั่งกำชับว่าต้องหาทางช่วยราษฎรในทุกๆวิถีทาง ชาวบ้านต้องมีน้ำกิน-น้ำใช้ ส่วนน้ำเพื่อทำการเกษตรนั้น ผู้ว่าฯพิจิตร กล่าวว่า
ถ้าหากใครจะทำนาปรังต้องมีบ่อน้ำ มีบ่อน้ำบาดาล อยู่ในไร่นาของตนเอง บอกแบบตรงไปตรงมาว่า
ต้องช่วยเหลือตนเอง
ทั้งในพื้นที่เขตชลประทานและนอกเขตชลประทานปีนี้ไม่มีน้ำจากเขื่อนส่งมาให้ทำนาปรังอย่างแน่นอน
อีกทั้งผู้ที่เคยใช้แพสูบน้ำจากพลังงานไฟฟ้าสูบน้ำจากแม่น้ำน่านไปทำนาปรังปีนี้ก็ต้องขอร้องว่าต้องงดสูบน้ำ
ทั้งนี้เพื่อเก็บน้ำในแม่น้ำน่านไว้เพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯพิจิตร
ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากหมู่บ้านใดที่น้ำประปาไม่เพียงพอ
ทางราชการก็ได้เตรียมการทั้งในระดับอำเภอและจังหวัดที่จะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา
ด้วยการสนับสนุนรถแจกจ่ายน้ำ เจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่ม
ส่วนการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
(ภัยแล้ง) จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ของทั้ง 12 อำเภอ เป็นระยะๆ ว่ามีอำเภอใด
ตำบลใดบ้างที่มีปัญหาภัยแล้งเข้าหลักเกณฑ์ที่จะประกาศ
เป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้ง เพื่อที่จะได้จัดหางบประมาณไปช่วยเหลือได้โดยทันที
ในส่วนของเกษตรกรถ้าไม่ได้ทำนาปรังแล้วต้องการทำอาชีพเสริมทั้งการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
ขณะนี้ สนง.เกษตรจังหวัดพิจิตร และ สนง.ปศุสัตว์
ก็ได้มีแผนการช่วยเหลือราษฎรไว้พร้อมแล้วด้วยเช่นกัน
สิทธิพจน์ พิจิตร
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น